คณะปลดแอก จัดพิธีเรียกส.ว.ลงหม้อ หน้าตร.
เยาวชนคณะปลดแอก ปราศรัยโจมตีหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมีการทำพิธีพิธีเรียก ส.ว.ลงหม้อ ก่อนจะจบกิจกรรมเคลื่อนรถไปยังกองทัพอากาศต่อไป
เมื่อเวลา 14.10 น. วันนี้ คณะประชาชนปลดแอก -Free people พร้อมรถเครื่องขยายเสียง 6 ล้อ ได้มาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ก่อนเริ่มปราศัยตำรวจได้ชี้แจงให้ปฏิบัติตามกฎหมาย พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ซึ่งไม่ได้มีการแจ้งตามกฎหมาย รวมถึงให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค และขอให้ไม่ไปรบกวนความเป็นอยู่ของบุคคลโดยทั่วไป โดยให้ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ โดยได้มีการประกาศเตือนให้แจ้งการชุมนุม ดังนี้ว่า ขณะนี้การชุมนุมของทุกท่านบนถนนซึ่งเป็นทางสาธารณะมิได้แจ้งการชุมนุมต่อสถานีตำรวจตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะมาตรา 10 ถือว่าเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตามพ.ร.บ. การชุมนุมสาธารณะมาตรา 14 จึงประกาศเตือนให้ยุติการชุมนุมและหากจะจัดการชุมนุมขอให้ตัวแทนหรือผู้จัดการชุมนุมไปแจ้งการชุมนุมต่อสถานีตำรวจท้องที่ให้เรียบร้อยตามกฎหมายโดยในระหว่างนี้ขอให้ยุติการชุมนุมและแยกย้ายเดินทางกลับภูมิลำเนาหวังว่าคงได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกท่านครับเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะสน.ปทุมวัน
จากนั้นคณะประชาชนปลดแอก -Free people ได้ปราศัยเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กลับมาทำงานที่ควรทำ ไม่ควรไปอยู่ในรัฐสภา โดยได้ส่งสารถึงผบ.ตร. ให้รับฟังเสียงของประชาชน พร้อมยืนยันถึงสิทธิที่สามารถแสดงออกได้ตามกฎหมายในระบอบประชาธิปไตย ว่าได้มาแสดงจุดยืนภายใต้กรอบของกฎหมายโดยปราศจากอาวุธ ซึ่งอาวุธเดียวที่กลุ่มนี้มีคือคำพูด ผ่านกระบอกปืนคือไมโครโฟน ที่ต่อสู้กับการกดขี่
โดยผู้ปราศัย กล่าวว่า ตำรวจไม่จำเป็นต้องเหลือบมองต่ำ หันมาสบตาผู้ปราศัยคนนี้ การใช้อำนาจโดยฉ้อฉลของตำรวจ ทั้งคดีเรื่องบ่อนกลางกรุง เรื่องไม่เจอกล้องวงจรปิด ขณะนี้คดีไปถึงไหนแล้ว รวมถึงคดีรถสปอตชนพี่น้องตำรวจตาย และสถิติการฆ่าตัวตายของตำรวจต่อปีมีถึง 18 คน ต่อตำรวจ 100,000 คน อยากให้ผบ.ตร.กลับมาทำหน้าที่ของตัวเอง
จากนั้นตัวแทนของคณะประชาชนปลดแอก ได้ทำพิธีเรียก ส.ว.ลงหม้อ โดยมีทีมงานของกลุ่มคณะประชาชนปลดแอก เป็นผู้ท่องคาถา ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปที่กองทัพอากาศ และกองทัพไทยต่อไป