'นิพนธ์' สวนกลับป.ป.ช.ไม่ทุจริตแต่ช่วยรักษาผลประโยชน์รัฐ
'นิพนธ์' เปิดแถลงโต้ป.ป.ช.ชี้มูลคดีทุจริตซื้อรถสิบล้อ ย้ำ ไม่จ่ายเงินเหตุพบความไม่โปร่งใส มั่นใจ พรรคไม่เสียหาย
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2563 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายนิพนธ์ ครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.สงขลา ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ว่า ตนไม่ได้ทุจริต และฟังข้อกล่าวหาของป.ป.ช.ก็ไม่ได้บอกว่าตนทุจริตเพียงแต่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่จ่ายเช็ค ชำระค่ารถซ่อมบำรุงอเนกประสงค์ ซึ่งมีผลการสอบของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงยืนยันว่ามีการฮั้วการประมูล และมีร่องรอยของการฮั้วตลอดเส้นทางตั้งแต่วันทำสัญญา วันขายแบบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ตนในฐานะผู้บริหารจะต้องระมัดระวัง ไม่ใช่ว่าใครเสนออะไรมาแล้วจะต้องเซ็นทุกเรื่องแล้วไปแก้ไขในภายหลัง ซึ่งหากดูให้ดีในกรณีนี้มีข้อพิรุธตั้งแต่ขั้นตอนการรับแบบ มีการขยายเวลาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และคณะกรรมการที่สอบ ก็บอกว่าไม่มี อำนาจตามกฎหมายมารองรับในการขยายเวลา มารับแบบ ได้เช่นนี้ และเมื่อ การขยายเวลามารับแบบไม่ชอบ ก็ถือว่าไม่มีการรับแบบ
“อันนี้มองด้วยสายตาเปล่า สำหรับคนที่มีความระมัดระวัง จะเห็นร่องรอยเหล่านี้ จนกระทั่งมาถึงวันที่ผมให้ไปตรวจสอบระบบว่ารถใช้ได้จริงหรือไม่เพราะเป็นรถสเปคพิเศษ ซึ่งเป็นรถสิบล้อแล้วมาดัดแปลงให้มีคุณลักษณะพิเศษ ก็ต้องไปสอบว่าใช้ได้จริงหรือไม่เมื่อกรรมการทดสอบแล้วว่าใช้ได้จริง ผมก็นำไปสู่ขั้นตอนการจดทะเบียนเป็นทรัพย์สินของ อบจ. ก็คือไปจดทะเบียนที่ขนส่ง ผมก็มีหนังสือนำส่งให้ ผมไม่ได้ขัดขวางอะไรวันที่ 5 ก.พ.ผมก็ไม่ได้ประวิงเวลา วันที่ 6ก.พ. ก็เบิกรถไปตรวจสภาพที่ขนส่ง พอวันนั้นหนังสือจากจังหวัดสงขลาที่ให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง มาถึงที่อบจ. ที่ฝ่ายนิติการ นี่คือจุดที่ตัดสินใจว่าทำไมไม่ลงนามจ่ายเช็ค เพราะจังหวัดสงขลามีหนังสือถึงอบจในวันที่ 5 กพ.2557 ให้สอบข้อเท็จจริงและรายงานมาให้จังหวัดทราบ และระหว่างสอบข้อเท็จจริงมีการนำคดีไปฟ้องศาลปกครองสงขลา ต่อมาคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงสรุปว่าคดีนี้ส่อว่าทำผิดกฎหมายสมยอมราคากัน ผมก็ต้องรายงานจังหวัด จังหวัดเลยบอกว่า เมื่อคดีอยู่ในศาลแล้วให้ปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 17 ธันวาคม 2552 ถ้าคดีอยู่ในศาลแล้วให้รอให้คำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดก่อน แล้วปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งขณะนี้คดีนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด ยังไม่ได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาด เงินจำนวน 51 ล้านก็ยังอยู่ที่อบจ. พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล” นายนิพนธ์ กล่าว
สำหรับกรณีที่มีการระบุว่า นายนิพนธ์สั่งตรวจรับรถใหม่ก่อนที่จะมีคนร้องเรียนว่ามีการสมยอมราคาหรือฮั้วประมูลนั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการสั่งตรวจรับใหม่ แต่เป็นการสั่งให้ตรวจสอบระบบ เพราะเป็นรถสเปคพิเศษ ซึ่งบริษัทผู้ขายก็นำไปทดลอง ว่าปั๊มลมใช้ได้หรือไม่ ระบบใช้ได้หรือไม่ จึงเป็นที่มา ของการนำหลักฐานว่าเป็นตัวแทนจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่มีอยู่จริง เพราะเป็นการนำอุปกรณ์จากต่างประเทศมาประกอบเป็นคันเดียวกัน ซึ่งมีการแจ้งผลการตรวจสอบมาในวันที่ 9 มกราคม หลังจากนั้นคณะกรรมการยืนยันว่าผ่านจึงให้ไปจดทะเบียนที่ขนส่งจังหวัด แต่วันนั้นก็มีหนังสือมาส่งถึงจังหวัดสงขลา
ส่วนกรณีที่มีคนในพรรคออกมากดดัน ให้ออกจากตำแหน่งนั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า สำหรับในพรรค มั่นใจว่าชี้แจงได้ ว่าการทำหน้าที่ถือว่าคุ้มครองประโยชน์ของรัฐ ในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ไม่ใช่ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และยืนยันว่าไม่ได้ทำให้พรรคเสียหายและหลักฐานที่ได้มา ยืนยันว่าบริษัทที่อ้างว่าเป็นผู้แทนจาก ต่างประเทศทั้งออสเตรเลีย อเมริกา ไม่มีอยู่จริง