'ประยุทธ์' ยืนยันกลางสภา "ไม่ลาออก" แต่ห่วงต่างชาติแทรกแซงการเมือง
'ประยุทธ์' ยืนยันไม่ลาออก เมินตัดช่องน้อยแต่พอตัว ห่วงประเทศสองเรื่อง โดยเฉพาะความแตกแยก หวั่น ชัยชนะบนซากปรักหักพังจะไม่เหลืออะไรเลย เตือน ชุมนุมการเมืองทำลายเศรษฐกิจ
เมื่อเวลา 21.24 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวชี้แจงระหว่างการประชุมรัฐสภาเพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 ว่า หลายอย่างที่พูดกันในสภาและโจมตีตนเองในสภานั้นส่วนตัวรับได้และยิ้มรับไปทั้งในเรื่องเศรษฐกิจและเรื่องอื่นๆเมื่อเวลา 21.24 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวชี้แจงระหว่างการประชุมรัฐสภาเพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 ว่า หลายอย่างที่พูดกันในสภาและโจมตีตนเองในสภานั้นส่วนตัวรับได้และยิ้มรับไปทั้งในเรื่องเศรษฐกิจและเรื่องอื่นๆ
"การให้ผมลาออกเพราะบริหารประเทศ ถ้าย้อนกลับไปปี 2549 หรือ 2557 มีใครลาออกหรือไม่ แล้ววันนี้คนเหล่านั้นอยู่ที่ไหน กรณีการชุมนุมผมรักลูกหลานทุกคน เป็นพลังแผ่นดินในวันข้างหน้า ทุกคนเป็นคนไทย ผมรับฟังมีทั้งทำได้และทำไม่ได้ กรณีของชุดนักเรียน ผมรู้มาว่าจะทำให้เกิดการประหยัดและไม่มีความแตกต่างระหว่างคนจนและคนรวย ส่วนทรงผมก็เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน แต่วันนี้โลกมันเปลี่ยนแล้วผมยอมรับได้ แต่ก็ไปคิดกันก็แล้วกัน"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การใช้สื่อออนไลน์ในการขับเคลื่อนนั้นในฐานะเป็นรมว.กลาโหมได้มีการติดตามก็ทราบว่าการแพร่ข้อความต่างๆมีโพสต์ครั้งแรก 200 คน จากนั้นเป็น 5 หมื่นคน ไม่ทราบว่าใช้เทคโนโลยีอะไร มันมีเครือข่ายหรือเปล่าไม่แน่ใจ มีการใช้ระบบเอไอโพสต์ข้อมูลต่างๆ รัฐบาลไม่เคยปิดกั้นแต่หากละเมิดเกินไปสังคมก็รับไม่ได้ ในโทรศัพท์ขึ้นมาทุกชั่วโมงในสิ่งที่ไม่ควรขึ้นมา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับตนเองนั้นมีความเป็นห่วงมากที่สุด สองรื่อง ได้แก่ 1.ห่วงประเทศชาติว่าจะไปทางไหนอย่างไร ประเทศไทยควบคุมโควิดจนมีผู้ติดเชื้อต่ำ มีหลักฐานประจักษ์ชัดว่าเราทำได้ดีมาก ซึ่งเป็นระบบสาธารณสุจชขที่สะสมมาจากคนรุ่นเก่าและพัฒนามาถึงคนรุ่นปัจจุบัน และเป็นผลจากการร่วมมือของคน ซึ่งทุกคนควรร่วมภาคภูมิใจ ผมห่วงเพราะผมรัก ไมได้ข่มขู่ใคร การระบาดโควิดส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรุนแรง ที่ผ่านมารัฐบาลกระตุ้นการใช้จ่ายเพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการเลิกการจ้างงาน
"เราดูแลคน60ล้านคน ทุกกลุ่มและเราเคาดว่าเมื่อวัคซีนผลิตได้ก็พร้อมจะดำเนินการทันที เศรษฐกิจไทยก้าวเดินขึ้นอย่างช้าๆเพราะไปเร็วไม่ได้ วันนี้อยากให้ย้อนนึกไปเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ความรู้สึกตอนนั้นกับตอนนี้ต่างกันหรือไม่ ผมไม่อยากกลับไปสู่เวลานั้นอีก เราเปิดประเทศได้แล้วครับแต่ต้องค่อยๆแง้ม วันนี้ข้อมูลจากกระทรวงต่างประเทศพบว่ามีคนต้องการเข้าประเทศไทยอีกเป็นหมื่นราย ซึ่งต้องมีการเจรจาและพูดคุย ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจะทำให้ประเทศเดินไปได้ แต่การชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา ผมไม่โทษเขา มีอะไรหรือเปล่าผมไม่ทราบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น บรรยากาศเศรษฐกิจปลายปีที่อาจดีขึ้นอาจถูกกดทับด้วยการเมือง"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า 2.ห่วงเรื่องความแตกแยกในสังคมไทย โดยเฉพาะสถาบันครอบครัวและความคิดเห็นต่างกันระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ ประเทศไทยเป็นครอบครัวใหญ่ที่อาศัยอยู่กันยาวนาน ไม่อยากให้รากฐานแตกร้าวเพราะความไม่เข้าใจกัน กลุ่มที่ถูกชักชวนในโลกโชเชี่ยลมีเดีย จะถูกจัดกลุ่มการใช้โซเชียลมีเดีย และเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เปราะบางที่ไม่เคยรับข้อมูลใดมาก่อนเลย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมโดยไม่รู้ตัว จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบคัดกรอง ขอให้คนไทยทุกคนสนใจเรื่องเหล่านี้ด้วย เพื่อให้เข้าใจว่าคนกลุ่มใดไม่ว่าที่ใดก็ตามสามารถปรุงแต่งความคิดของคนกลุ่มเปราะบางได้เสมอ
"รัฐบาลยินดีรับฟังข้อเรียกร้อง แต่ต้องไม่ไปลิดรอนสิทธิและความเชื่อที่แตกต่างและความศรัทธาของคนอื่น ซึ่งทุกฝ่ายควรเข้าใจดีอยู่แล้ว การประชุมสภาครั้งนี้ผมเห็นด้วยหากจะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อนำไปสู่การพูดคุยและหาทางออก โดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและฝ่ายที่เห็นต่าง มิเข่นนั้นก็นั่งเปล่าๆ ผมกังวลอยู่ว่าจะไปเจรจากับใคร ทุกคนเป็นหัวหน้าหมด คงต้องใช้สถานที่กว้างๆ และผมขอสงวนสิทธิในข้อเรียกร้องที่ไม่ได้เป็นความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่"
"ผมไม่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวและผมไม่ลาออกในยามที่ชาติบ้านเมืองมีปัญหา หลายคนบอกว่ารัฐบาลใช้เงินอย่างเดียว ผมถามว่ารถไฟฟ้ากี่สายกี่เส้น ถนนหนทาง เกิดขึ้นสมัยไหน เรามีกำลังได้เราก็ทำ วันนี้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นเพราะโควิดที่ต้องกู้เงินเพื่อช่วยประชาชน"
"การได้ชัยชนะท่ามกลางซากปรักหักพังของบ้านเมืองคุ้มค่าหรือไม่ สมันจะไม่เหลืออะไรเลย สิ่งที่คาดหวังว่าจะเปลี่ยนดุลอำนาจมันจะไม่เหลือให้ท่านแม้แต่น้อยนิด สงสารลูกหลานเยาวชนคิดถึงเขาบ้างหรือเปล่า ท่านจะเอามาขับเคลื่อนทางการเมืองไปด้วย ขอให้นำข้อมูลทั้งสองวันไปใช้ให้เกิดประโยชน์และทำความเข้าใจกับลูกหลาน ขอขอบคุณประธานสภาและส.ส.ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้านและส.ว.ทุกคนที่เสนอความคิดเห็นและชี้แนะทางออกให้รัฐบาล เรื่องใดที่ทำและเป็นประโยชน์ รัฐบาลจะรับไปพิจารณา คนไทยอย่าทำอะไรที่เกิคความเสียหายให้กับบ้านเมืองและอย่าเอาต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องกับกิจการในประเทศไทย เรามีอธิปไตยของเราเอง มันอันตรายที่สุด เพราะเป็นช่วงของขั้วอำนาจ มันจะไม่ได้ปัญหาเฉพาะเราอย่างเดียว"
จากนั้น นายชวน ได้ขอบคุณทุกฝ่ายโดยเฉพาะคณะรัฐมนตรีได้สนับสนุนการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ส่วนข้อเสนอต่างๆ จะต้องไปหารือกับทุกฝ่ายอีกครั้ง ต่อมาได้ให้เลขาธิการสภาฯอ่านพระบรมราชโองการปิดการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ และสั่งปิดประชุมในเวลา 22.00น.