"ส.ส.ภท." ขู่เอาผิดอาญา-จริยธรรม "ส.ส.ฝ่ายค้าน" ไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม
สภาผู้แทนราษฎร ป่วน3ชั่วโมง หลัง ฝ่ายค้าน แก้เผ็ด ฝ่ายรัฐบาล โหวตค้าน ญัตติด่วนปัญหาใช้ความรุนแรงผู้ชุมนุม ส.ส.ภท. ไม่ทน ขู่แจ้งความอาญา-จริยธรรม ส.ส.ฝ่ายค้าน ไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานที่ประชุม นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อแล้วเสร็จ และรอการประกาศผล นั้น มีส.ส.ขอหารือต่อประเด็นที่เกิดขี้น
นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ หารือต่อที่ประชุม ว่า การขอนับองค์ประชุมของนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ไม่ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับและถือว่าเป็นโมฆะ เพราะการนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ ภายหลังจากที่แสดงตนต่อที่ประชุมด้วยการเสียบบัตรแสดงตนแล้วถือว่าขัดต่อระเบียบ
ทำให้นพ.ชลน่าน อภิปรายโต้แย้งว่า การขอนับองค์ประชุมเป็นเอกสิทธิ์ของส.ส.ที่ทำได้ ทั้งนี้การขอให้ตรวจสอบองค์ประชุมนั้น มีเหตุผลคือเสียงข้างมากไม่เปิดใจให้ญัตติด่วนที่เสนอด้วยปากเปล่าของฝ่ายค้านได้รับการพิจารณาในที่ประชุม ด้วยเสียงข้างมาก 217 เสียง
“สถานการณ์พวกผมฐานะเสียงข้างน้อย มาตรการร้องขอต่อเสยขางมาก แต่ถูกปฏิเสธ เบาสุดคือ เดินออกห้องประชุมไม่ร่วมสังฆกรรม แต่สิ่งที่ผมเห็น คือ เสียงข้างมากต้องการปิดกั้นญัตติที่ฝ่ายค้านเสนอ แต่เสียงที่ลงมติมี 217 เสียง ผมย่อมมีความชอบธรรมหากพวกผมไม่เป็นองค์ประชุมจะประชุมต่อได้หรือไม่ เป็นเหตุผลอันควร เมื่ออยากใช้เสียงข้างมากทำงานต่อ โดยไม่ฟังเสียขางน้อย ต้องเป็นเสียงข้างมากเด็ดขาด” นพ.ชลน่าน ชี้แจง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการประชุมช่วงดังกล่าว ยังเป็นไปด้วยการประท้วงกันทั้ง2 ฝั่ง โดยอ้างข้อบังคับการประชุม ทั้งนี้เหตุการณ์เหมือนจะบานปลาย เมื่อนายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย หารือเพื่อเตรียมดำเนินการฟ้องคดีอาญากับส.ส.ฝ่ายค้าน ที่อยู่ในห้องประชุมแต่ไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม คือ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซึ่งทำหน้าที่เป็นกรรมการนับการขานชื่อสมาชิกในห้องประชุม แต่ไม่แสดงตน
โดยนายวิรัช ระบุว่า พล.ต.ต.สุพิศาลนั่งอยู่ในห้องประชุมแต่ไม่ขานชื่อ ถือว่าเป็นการกระทำ ที่เป็นการไม่กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อพนักงาน ผิดประมวลกฎหมายอาญา ทั้งนี้เมื่อฝ่ายค้านที่นั่งเป็นกรรมการจะไม่โหวตไม่ได้ เพราะเป็นความผิดอาญา ฐานแจ้งความอันเป็นเท็จต่อประธานสภาฯ และเป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรม สิ่งที่ฝ่ายค้านทำด้วยการวอร์คเอาท์ออกจากห้องประชุมถือว่าไม่เหมาะสมกับการได้รับเงินเดือนจากประชาชน
ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน ชี้แจงว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 124 การออกเสียงลงคะแนนเป็นเอกสิทธิ์ การตรวจสอบองค์ประชุม แม้ไม่ประสงค์เป็นองค์ประชุม ย่อมเป็นเอกสิทธิเช่นกัน
