การเมือง
"สภาฯ" เดือด ส.ส.พปชร. ขุดปม"เลิกชุดนักเรียน" โยง "นักการเมืองเลว" ล้างสมองเด็ก
การประชุมสภาฯ ช่วงกระทู้ถามสด ส.ส.พปชร. ตั้งกระทู้ถาม รมว.ศึกษาธิการ เรื่องเลิกใส่ชุดนักเรียน โยงนักการเมืองเลว ล้างสมองเด็ก "ณัฎฐพล" เตรียมคุมเข้มคนนอกเข้าให้ความรู้เยาวชนในโรงเรียน
นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตอบกระทู้ถามสดต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ของนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ต่อการประท้วงยกเลิกเครื่องแบบนักเรียนของกลุ่มเยาวชนที่ใช้ชื่อว่ากลุ่มนักเรียนเลว ว่า กระทรวงศึกษาตั้งกรรมการเพื่อพิจารณาข้อเรียกร้องของนักเรียน นักศึกษา ในหลายประเด็น อาทิ การละเมิด การคุกคามนักเรียน กฎระเบียบที่ล้าหลังของสถานศึกษาที่กระทบต่อสิทธิแสดงออกของนักศึกษา, ทรงผม, เครื่องแต่งกาย เป็นต้น อย่างรอบด้าน โดยมีนายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เป็นประธาน ทั้งนี้ในประเด็นที่สามารถแก้ไขได้เร่งด่วนที่สุด คือ เครื่องแต่งกาย และทรงผม โดยเชิญตัวแทนกลุ่มนักเรียนเลว ทั้งนี้ทางตัวแทนกลุ่มสอบถามว่าสามารถถ่ายทอดสดได้หรือไม่ เมื่อไม่สามารถถ่ายทอดสดได้ จึงปฏิเสธการเข้าร่วม
“ฐานะที่ผมกำกับด้านนโยบายต้องดูว่าทำได้จริงได้หรือไม่ เช่น ทรงผม ไว้ยาวได้ แต่ต้องรวบ ชุดนักเรียน ที่ต้องหารือกับสถานศึกษา กระบวนการที่ตั้งคำถามโดยเฉพาะเครื่องแต่งกายต้องได้แนวทางที่เหมาะสม เช่น ทดลองอาทิตย์ละ 1 ครั้ง หรือ เทอมละ 1 ครั้ง ซึ่งสถานศึกษาสามารถทำได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนกฎกระทรวง แต่ไม่มีผู้บริหารสถานศึกษาใดดำเนินการ แม้จะมีเพียงหลักสิบโรงเรียนที่ดำเนินการแล้ว เรื่องนี้วางรากฐานการบริหารจัดการของสถานศึกษาไทยในอนาคต ทั้งนี้ไม่สามารถรีบตัดสินใจเพราะถูกกดดัน” นายณัฎฐพล กล่าว
นายณัฎฐพล ชี้แจงด้วยว่าสำหรับจำนวนนักเรียนประถมศึกษาตอนต้น มี 1.6 ล้านคน นักเรียนประถมศึกษาตอบปลาย จำนวน 9แสน รวมทั้งสิ้น 2.5 ล้านคน ทั้งนี้มีข้อมูลว่ามีคนแต่งชุดไปรเวทไปโรงเรียน 638 คน ทั้งนี้ตนไม่ท้าทายให้แต่งชุดไปรเวทมากกว่านี้ แต่ตนมองว่าขณะนี้สังคมไม่พร้อมและหวังว่า อนาคตอาจจะมีแนวทางหาทางออกที่เหมาะสม เชื่อว่าไม่เกินสิ้นเดือนธันวาคมนี้จะได้แนวทางที่เหมาะสม แต่อาจไม่ถูกใจกับทุกคน
นายณัฎฐพล ชี้แจงต่อคำถามการป้องกันการละเมิดหรือคุกคามทางเพศนักเรียน ว่า กระทรวงศึกษาธิการไม่ยอมความ ทั้งนี้เคยทำเรื่องถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไม่ให้ประกันตัว เพราะกังวลว่าจะใช้อิทธิพลในโรงเรียน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามจากกรณีที่พบครูคุกคามนักเรียน ล่าสุดนั้นได้ถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู 16 รายและมีอีก 2 รายเตรียมดำเนินการ
ทั้งนี้นายชัยวุฒิ ถามกระทู้ด้วยว่า เชื่อหรือไม่ว่าการชุมนุมของนักเรียนเลวเพราะมีนักการเมืองเลวชักนำและอยู่เบื้องหลัง ที่ผ่านมามีบางพรรคส่งสมาชิกพรรค ส่งส.ส. ล้างสมองนักเรียน และใช้เด็กเป็นเครื่องมือ เมื่อถูกยุบพรรค หัวหน้าพรรคบอกไม่ให้ต่อสู้ในรัฐสภา จะต่อสู้บนถนน ทำให้มีการชุมนุมเต็มถนน ซึ่งมาจากการนักการเมือง ทั้งนี้ตนเชื่อว่าการชุมนุมไม่ใช่ต้องการล้มรัฐบาลเท่านั้น แต่ต้องการล้มมากกว่านั้น หากการปล่อยให้นักการเมืองเลว ล้างสมองเด็กให้ชังชาติ ต่อต้านสังคม บ้านเมืองจะอยู่อย่างไร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงว่า ตนไม่ดัดจริต ยอมรับว่ามีคนคิดเรื่องชุดนักเรียน ซึ่งคนคิดใจร้ายที่ให้นักเรียนเผชิญหน้ากับผู้บริหารสถานศึกษา ทั้งนี้การสร้างประชาธิปไตยในโรงเรียนตนจะเข้มงวดต่อการคัดเลือกบุคคลภายนอกที่จะเข้าไปยังสถานศึกษา ซึ่งกระทรวงจะออกระเบียบเพื่อลดภาระของครู, นักเรียน มุ่งเน้นเรียนหนังสือและพัฒนาตนเอง เพื่อหยุดเรื่องการให้ข้อมูลที่บิดเบือนให้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการตั้งกระทู้ถามของนายชัยวุฒิ ต่อประเด็นนักการเมืองล้างสมองเด็กนั้น มีส.ส.พรรคฝ่ายค้านประท้วงให้ถอนคำพูดและรายละเอียดที่เกิดขึ้น ทั้งนี้นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วงว่า การตั้งคำถามของนายชัยวุฒินั้น สื่อให้เห็นได้ว่าหมายถึงพรรคอนาคตใหม่ และเป็นพรรคก้าวไกลปัจจุบัน ว่าอยู่เบื้องหลังผู้ชุมนุม เป็นเหมือนกระบวนการไอโอ ทั้งที่เป็นการชุมนุมโดยอิสระของนิสิต นักศึกษา เยาวชน ทั้งนี้มีหลักฐานแสดงว่าอยู่เบื้องหลังหรือไม่
“ไม่มีการชังชาติ ไม่มีใครชังชาติมี แต่ชังรัฐบาล ที่มาจากการเผด็จการ และสมุนรับใช้เผด็จการทหารเท่านั้น ทั้งนี้ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่เคยใส่ข้อมูลบิดเบือน หรือล้างสมองนักเรียนใดๆ เพราะหากสามารถทำได้ ค่านิยม12 ประการคงสามารถทำให้นักเรียนปฏิบัติได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเด็กยุคใหม่สามารถหาความรู้ได้ ทั้งในแง่ประชาธิปไตย การคิดและมีเหตุผล ซึ่งไม่ได้อยู่ในห้องสมุดเท่านั้น ทำให้เด็กยุคใหม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์โต้แย้งสังคมได้มากกว่าเดิม ส่วนนักการเมืองเลวคือ นักการเมืองที่ซื้อเสียง ส.ส.ขายตัว และนักการเมืองมาจากกติกาที่เลว” นายธีรัจชัย กล่าว