'15 อปท.' เชียงใหม่ผนึกแผนพัฒนาชุมชนท้องถิ่น 6 แนวทาง

'15 อปท.' เชียงใหม่ผนึกแผนพัฒนาชุมชนท้องถิ่น 6 แนวทาง

เครือข่าย 15 อปท.เชียงใหม่ "เอ็มโอยู" ร่วมขับเคลื่อนชุมชนท้องถิ่นแบบมีส่วนร่วม เร่งทำฐานข้อมูลชุมชนเพื่อวิจัยภายใน ม.ค.64 มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิต 6 ด้าน

นายสมนึก เดชโพธิ์ ปลัดเทศบาลตำบลแม่ข่า ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลแม่ข่า ในฐานะ อปท.แม่ข่าย กล่าวถึงการทำบันทึกข้อตกลง(เอ็มโอยู) ในการการดำเนินงานของโครงการสร้างระบบบูรณาการ เพื่อขับเคลื่อนชุมชนท้องถิ่นแบบมีส่วนร่วม ซึ่งมีอปท.เครือข่ายเข้าร่วมพิธี 15 แห่งจาก 7 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ว่า สำหรับเรื่องแรกที่ อปท.แต่ละแห่งต้องทำ คือระบบฐานข้อมูลตำบล (TCNAP) และกระบวนการวิจัยชุมชน (RECAP) ส่วนประเด็นที่เครือข่ายต้องดำเนินการ คือ 5 +1 ในเรื่องสำคัญของท้องถิ่น การดูแลผู้สูงอายุ การดูแลเด็กปฐมวัย การจัดการขยะ ยาสูบ และแอลกอฮอล์ อุบัติเหตุ และโรคติดต่อ โดยเหตุผลที่ต้องนำทั้ง 5 ประเด็นนี้มาเป็นแนวทางในการพัฒนา เพื่อทำให้ชุมชนของเรามีความสุข โดยเทศบาลตำบลแม่ข่าได้ใช้แนวคิดที่ว่าร่วมคิดร่วมสร้าง ร่วมสุขร่วมกันด้วย

ปลัดเทศบาลตำบลแม่ข่า ระบุว่า หลังจากลงนามเอ็มโออยู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว อปท.เครือข่าย 15 แห่งต้องจัดเก็บข้อมูลชุมชนและทำการวิจัยชุมชนให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ..2564 จากนั้นจะเป็นการทำประเด็นเร่งด่วนที่ได้ทำการตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ ในเรื่องการจัดการขยะในชุมชน เพราะปัญหานี้ทุกท้องถิ่นต่างประสบปัญหาเหมือนกัน ซึ่งข้อมูลมีความสำคัญสำหรับท้องถิ่นมาก ถ้าหากทำงานไม่มีข้อมูล จะได้งานไม่ตรงกับสิ่งที่ต้องการ เพราะข้อมูลต่างๆ ที่ได้มา สามารถนำมาวิเคราะห์ เพื่อหาโอกาสที่จะพัฒนาต่อไปหรือหากพบปัญหาจะได้หาทางแก้ไข ซึ่งกระบวนการนี้เทศบาลตำบลแม่ข่าได้ทำมาตลอด

ด้าน ..ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้ช่วยผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) กล่าวถึง เทศบาลตำบลแม่ข่าว่า เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง ผู้นำชุมชนท้องถิ่นมีความสามารถจึงต้องการให้พื้นที่อื่นมาเรียนรู้ เพราะถ้ามีผู้นำดีจะสามารถทำได้ทุกเรื่อง ซึ่งการทำเอ็มโอยูในครั้งนี้ ท้องถิ่นทั้ง 15 แห่งจะตกลงกันทำ 5 เรื่องให้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแอลกอฮอล์ที่เกี่ยวเนื่องไปถึงการเกิดอุบัติเหตุ อย่างเขตตำบลแม่ข่า มีถนนใหญ่พาดผ่าน ก็ต้องทำให้สำเร็จ และรวมถึงประเด็นเพิ่มเติมสำคัญคือเรื่องโรคติดต่อ

..ดวงพร กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ การสานพลังผู้นำให้เกิดเครือข่ายเชิงพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ใกล้กันนั้นสำคัญอย่างมาก เช่น ช่วงเวลาที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 สมาชิกในเครือข่ายควรรวมตัวกันสร้างสรรค์นวัตกรรมการจัดการ เกิดความร่วมมือ ช่วยเหลือกัน ตำบลไหนมีประสบการณ์เรื่องอะไรก็จะเข้าไปดู ถือเป็นฐานพลังองค์กรช่วยชาวบ้านได้เป็นอย่างดี

แต่ท้องถิ่นต้องทำวิจัยชุมชน ค้นหาว่าใครคือคนดี คนเด่น คนสำคัญ หรือมีกลุ่มทางสังคมในหมู่บ้านในตำบลกี่กลุ่ม กลุ่มไหนมีศักยภาพสูงที่จะถ่ายทอด กลุ่มไหนที่ทำของตนเองได้ดี ก็ยกระดับให้มาถ่ายทอด ส่วนกลุ่มไหนที่ยังทำไม่ได้ดี ทางพื้นที่ก็ต้องช่วยกันพัฒนา คนที่เข้มแข็งกว่าจะช่วยคนที่อ่อนแอกว่า เชื่อมั่นว่า อปท.ทั้ง 15 แห่งที่มาร่วมลงนามเอ็มโอยูในครั้งนี้ จะร่วมมือกันทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ และสร้างความสุขให้กับชุมชนท้องถิ่นต่อไปผอ.สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) ระบุ