'ศบค.'รอประเมินผลม.ค.64ลดวันกักตัวเหลือ10วันหรือไม่

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.

โดยนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. แถลงผลการประชุมว่า นายกฯ ได้ขอให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มงวด เนื่องจากใกล้เทศกาลปีใหม่ และขอให้ทำตามกฎหมาย ผู้ที่ทำผิดจนสุ่มเสี่ยงทำให้เกิดการแพร่ระบาด หรือผู้ที่ฝ่าฝืนต้องเข้มงวดทางกฎหมาย นอกจากนั้น นายกฯ ยังเน้นย้ำให้ทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก สร้างความเชื่อมั่นว่าสามารถดำเนินการในด้านต่างๆ ได้ตามปกติ เช่น การท่องเที่ยว ที่ต้องทำตามมาตรการที่กำหนด มีการบันทึกข้อมูลผ่านไทยชนะ จึงต้องขอความร่วมมือประชาชน เนื่องจากช่วงนี้รัฐบาลมีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านหลายมาตรการ จึงต้องไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดอีกรอบ เพราะจะทำลายเศรษฐกิจของประเทศ

ส่วนกรณีคอนเสิร์ตบิ๊กเม่าน์เท่นนั้นมีการรายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ประชุมมีแนวทางสนับสนุนให้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองช่วงปีใหม่ แต่ทางผู้จัดงาน ผู้ร่วมกิจกรรมต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เช่น จำกัดผู้เข้างาน 50% ของพื้นที่ ไม่ให้เกิดความแออัด และแต่ละขนาดพื้นที่ต้องไม่น้อยกว่า 1ตารางเมตรต่อคน รวมถึงต้องมีการลงทะเบียนผู้เข้างาน สวมหน้ากากอนามัย และแบ่งพื้นที่เป็นกลุ่มย่อยสำหรับผู้เข้าร่วมงาน เพราะหากเป็นอะไรขึ้นมาก็เป็นเฉพาะคนในพื้นที่นั้นๆ ที่ใกล้ชิด

นพ.ทวีศิล์ กล่าวว่า ในส่วนของข้อเสนอลดวันกักตัวนั้น ขณะนี้ยังคงระยะเวลา 14 วัน ซึ่งข้อเสนอให้ลดเหลือ10วัน ข้อมูลยังไม่ชัดเจน ทั้งนี้ เดิมการกักตัว 14 วัน จะมีการตรวจหาเชื้อของผู้ที่เข้าสถานกักกัน ในวันที่ 3 , 5 , 11 และ 13 ซึ่งมีข้อมูลว่า บางคนมาพบการติดเชื้อในวันที่ 12 หรือ13 ดังนั้น การจะลดวันกักตัวเหลือ10วันนั้น ขณะนี้มีการทดลองแล้วทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1-31ธ.ค.นี้ โดยจะมีการตรวจหาเชื้อ 3 ครั้งคือ ในวันแรกที่เข้าสถานกักกัน จากนั้นจะตรวจวันที่ 9, 10 โดยในวันที่ 1-15 ม.ค.64 จะประเมินผล ตรงนั้นจะได้เห็นชุดข้อมูลว่าสามารถใช้ได้หรือไม่ แม้ทั่วโลกจะลดวันกักตัวเหลือ 10 วัน แต่ของไทยยังเป็นชุดข้อมูลที่จะปรับลดวันหรือไม่ ก็อยู่ที่ชุดข้อมูลส่วนนี้ 

อย่างไรก็ตาม ทางศบค.จะได้พิจารณาอีกครั้งว่าจะอนุมัติให้ลดวันกักตัวหรือไม่