เปิดคำสั่ง 'มหาดไทย' สั่งผู้ว่าฯ คุมเข้มจังหวัด 'พื้นที่ควบคุมสูงสุด' สกัด 'โควิด' ลาม
"ปลัดมหาดไทย" ยกระดับมาตรการสกัด "โควิด" สั่งผู้ว่าฯเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ตั้งด่านคัดกรองเดินทางข้ามจังหวัด พร้อมตั้งโรงพยาบาลสนาม เร่งกวาดล้างบ่อนการพนัน
รายงานข่าวจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้กำหนดกรอบการปฏิบัติตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 16) ลงวันที่ 3 ม.ค. เพื่อให้จังหวัดและกรุงเทพมหานคร(กทม.) ถือปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าฯกทม. ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดและกทม. ดำเนินการเพิ่มเติม 3 ด้าน ดังนี้
1.เน้นย้ำขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเต็มขีดความสามารถหรือ DMHTT ได้แก่ เว้นระยะระหว่างกัน สวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ หมอชนะ
2.ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความตระหนักแก่ประชาชนให้ความร่วมมือหากทราบว่า ตนเองได้เคยเดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีการพบผู้ติดเชื้อหรือ "พื้นที่ควบคุมสูงสุด" ขอให้กักกันตนเองและหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบุคคลอื่นเป็นเวลา 14 วัน หากพบว่ามีอาการผิดปกติให้ไปพบแพทย์ ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านและให้ข้อมูลที่แท้จริงกับแพทย์
3.ปฏิบัติตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่กวดขันไม่ให้มีบ่อนการพนันในพื้นที่ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโดยเคร่งครัด โดยให้ผู้ว่าฯ และนายอำเภอ เข้มงวดกวดขันและประสานการปฏิบัติร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านร่วมในการหาข่าว เบาะแสกรณีดังกล่าวด้วย
สำหรับจังหวัดและพื้นที่ กทม.ซึ่งกำหนดให้เป็น "พื้นที่ควบคุมสูงสุด" ให้ดำเนินการ ดังนี้ 1.ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค โดยให้ ผู้ว่าฯใช้อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อโดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาสั่งปิดสถานบริการสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นใดที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค
2.การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้ผู้ว่าฯ เสนอคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนดมาตรการจัดระเบียบการเข้าใช้บริการจำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน การจัดสถานที่ จัดให้มีระบบบันทึกผู้ใช้บริการโดยใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ หรือจดบันทึกข้อมูลให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติและมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงและความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ในกรณีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาแล้วเห็นว่าสถานการณ์ในพื้นที่มีการแพร่ระบาดรุนแรง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกำหนดเวลาห้ามนั่งบริโภคในร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้กำหนดห้ามนั่งบริโภคในร้านระหว่างเวลา 21.00 - 06.00 น.ของวันรุ่งขึ้น โดยให้เป็นลักษณะของการจำหน่ายแล้วนำกลับไปบริโภคที่อื่น
3.การตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัด ให้ดำเนินการตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ และต้องไม่เป็นการก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ โดย ผู้ว่าฯ ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ผอ.รมน.จังหวัด) บูรณาการและประสานการปฏิบัติ จัดเจ้าหน้าที่ร่วมกับฝ่ายความมั่นคงและตำรวจ ตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจในเส้นทางคมนาคมที่เป็นเส้นทางหลักพื้นที่รอยต่อระหว่าง "พื้นที่ควบคุมสูงสุด" กับ "พื้นที่ควบคุมสูงสุด" และพื้นที่รอยต่อระหว่าง "พื้นที่ควบคุมสูงสุด" กับ "พื้นที่ควบคุม" หากพบบุคคลที่มีความเสี่ยงหรือเดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด ให้บันทึกข้อมูลเพื่อสามารถสืบค้นได้ และดำเนินการตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด พร้อมมอบหมายนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บูรณาการกับทุกภาคส่วนจัดตั้งจุดตรวจคัดกรองการเดินทางในเส้นทางรองในตำบล หมู่บ้าน และชุมชน ให้ประสานสอดคล้องกับการจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจในเส้นทางหลัก
พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัด และขอความร่วมมืองดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่มีเหตุจำเป็น หรือเป็นกรณีการขนส่งสินค้าอุปโภค บริโภค ผลผลิตทางการเกษตร ที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีพ การปฏิบัติงานเกี่ยวกับระบบสื่อสารโทรคมนาคม สาธารณูปโภค สาธารณูปการ โดยต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ รวมทั้งรับการตรวจคัดกรองและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด อันอาจทำให้ไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางและต้องใช้ระยะเวลาการเดินทางมากกว่าปกติ
นอกจากนี้ ในกรณีจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและมีแนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น ให้จังหวัดประชุม คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เตรียมพร้อมวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการบริหารจัดการ โดยให้พิจารณาความเหมาะสมของสถานที่และชี้แจงสร้างความเข้าใจกับประชาชนด้วย และให้ผู้ว่าฯ ประสานกับผู้ประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ แสวงหาความร่วมมือการปฏิบัติการดูแลผู้ใช้แรงงานร่วมกับการปฏิบัติการของภาคราชการ โดยแนะนำให้มีการนำมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
หากพบกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยงให้ดำเนินการตามแนวทางที่ทางราชการกำหนด โดยพิจารณาร่วมกันระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุขกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ต่อไป