ตรวจโผ 'ใครเป็นใคร' รอเปิดศึกชิงผู้ว่าฯกทม.

ภายหลังการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) และสมาชิกสภาจังหวัดผ่านไปแล้วเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. เป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นระดับแรก ก่อนการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) เทศบาล นายกเมืองพัทยา และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)

ตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้ในปฏิทิน 2564 จะมีการเลือกตั้ง เทศบาล อบต. พัทยา และกทม.ตามลำดับ แต่ระหว่างนี้สนามเลือกตั้งท้องถิ่นโดยเฉพาะ "ผู้ว่าฯกทม" ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในกลุ่มท้ายสุดในการจัดเลือกตั้งไม่เกินกลางปี 2564 จากประเด็น "วิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี เคยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ว่าการเลือกตั้งเกี่ยวกับ กทม. ยังมีปัญหา เนื่องจากยังถกเถียงเรื่องจะให้มี สข.หรือไม่ ถ้าจะให้มีเลือกตั้ง ส.ข.ด้วย ต้องแก้กฎหมายซึ่งขณะนี้ค้างอยู่สภาฯ ทำให้ "ไทม์ไลน์" เลือกตั้งในปี 2564 จะถูกเรียงระดับเทศบาลอบต. จากนั้นเป็นเมืองพัทยา และปิดท้ายที่ กทม.

ถึงแม้ช่วงเวลา "เลือกตั้ง" จะถูกจัดเป็นลำดับท้าย แต่ขณะนี้สนามเลือกตั้ง กทม.กลับถูกพูดถึงอีกครั้งจากกรณี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.ออกมาเปิดเผยว่า "บิ๊กแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้โทรมาหารือถามว่า"ลูกพี่เอาไง" หรือกระทั่งสุ้มเสียง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โยนให้ที่ประชุมของพรรคเป็นผู้ตัดสินจะเลือก "บิ๊กแป๊ะ" เป็นแคนดิเดทลงเลือกตั้งหรือไม่

เพราะหากนับที่สัญญาณแรกที่มาจากขั้วพรรคพลังประชารัฐ เชื่อมโยงไปถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ภายหลังเกษียณอายุราชการไปเมื่อ 30 ก.ย.2563 ยังมีกระแสข่าวมาตลอดว่าจะเป็นตัวแทนพรรคลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. โดยเฉพาะท่าทีเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ลงพื้นที่เป็นครั้งแรกหลังเกษียณอายุราชการ ที่เคหะฉลองกรุง เขตหนองจอก เพื่อร่วมพิธีเปิดการแข่งขันชกมวยไทยมหากุศลและมอบทุนการศึกษาให้เด็กกำพร้า โดย "บิ๊กแป๊ะ" กล่าวไว้ช่วงหนึ่งบนเวทีว่า "ขอให้พี่น้องประชาชนดูแลชุมชนของตัวเองให้ดี และขอฝากเนื้อฝากตัวเผื่อในโอกาสต่อไปได้กลับมาเยี่ยมเยียนนอีกครั้ง"

ขีดเส้นใต้ 3 เส้นไปที่คำสัมภาษณ์ว่าเตรียมลงสมัครผู้ว่าฯกทม.หรือไม่ โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ยืนยันมีความเป็นไปได้ แต่ขณะนี้ยังพอมีเวลาในการตัดสินใจ ส่วนจะลงอิสระหรือสังกัดพรรคการเมืองใดต้องรอดูบรรยากาศอีกครั้ง แต่หากตัดสินใจลงสมัครผู้ว่ากรุงเทพฯมีนโยบายพร้อมอยู่แล้ว โดยเฉพาะการเปิดเพจ "จักรทิพย์ ชัยจินดา" เป็นสัญญานแต่งตัวชัดเจนต่อการชิงกระแสเปิดตัวสมัครผู้ว่าฯกทม. ด้วยสโลแกน "ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมสร้าง สะอาด ปลอดภัย แก้ปัญหาฉับไว"

ขณะที่อีกด้านภายในพลังประชารัฐยังมีกระแสชื่อ "ทยา ทีปสุวรรณ" อดีตรองผู้ว่าฯกทม. ภรรยาณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ "สกลธี ภัททิยกุล" รองผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบัน หรือชื่อ "วทันยา วงษ์โอภาสี" ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้ากลุ่ม "ดาวฤกษ์" เป็นอีกสามชื่อที่อยู่ในติดกระแสลงสมัครเก้าอี้ผู้ว่าฯในนามพลังประชารัฐเช่นกัน

ถัดมาที่พรรคเพื่อไทย หนึ่งการพรรการเมืองที่สถานการณ์ระส่ำ จากกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 30 พ.ย. ซึ่งก่อนหน้านี้ "สุดารัตน์" นอกจากจะมีหัวโขนเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยแล้ว หมวกอีกหนึ่งใบยังเป็นประธานสรรหาผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ส.ก.และ ส.ข. โดยขณะนั้น "สุดารัตน์" ออกมาระบุว่าขณะนี้มีรายชื่ออยู่ในมือแล้ว แต่ยังไม่ได้สรุปว่าจะเลือกใคร

แต่การลาออกจากหมวกทุกใบของ "สุดารัตน์" ในฐานะเจ้าแม่ กทม.ในครั้งนี้ ทำให้เพื่อไทยอยู่ในภาวะ "ฝุ่นตลบ" จะเลือกใครมาเป็นตัวแทน ท่ามกลางกระแสอีกด้านหนึ่งว่าพรรคเพื่อไทยจะดึง "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" กลับมาเป็นตัวแทนของพรรคอีกครั้ง หลังจากที่เคยต่อสายไปแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ไม่มีคำตอบรับใดๆ กลับมา

ทำให้จากสถานการณ์แผ่นดินไหวเพื่อไทยขณะนี้ กระทบไปถึงกระบวนการสรรหาผู้สมัครสนาม กทม.ที่เคยมี "สุดารัตน์" เป็นประธานต้องเว้นระยะออกไป จนมีกระแสข่าวที่ยังมีอีกด้านหนึ่งอาจได้เห็น "สุดารัตน์" กลับมาโคจรในสนามผู้ว่าฯกทม.อีกครั้ง จากแรงสนับสนุนภายในกลุ่ม ส.ส.กทม.ในสังกัดของ "สุดารัตน์" เอง

ข้ามมาที่ "ประชาธิปัตย์" อีกหนึ่งพรรคที่ขยับกระบวนการสรรหาผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ส.ก. โดย "องอาจ คล้ามไพบูลย์" รองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่กทม. ได้ทยอยออกโรดแม็พกำหนด "นโยบาย-ผู้สมัคร" ไว้แล้ว 3 ระดับ แบ่งเป็น 1.ผู้ว่าฯกทม. 2.สมาชิกสภา กทม. และ 3.กรณีมีเลือกตั้งสมาชิกสภาเขต(ส.ข.)

ระหว่างนี้ประชาธิปัตย์ เปิดช่องทางให้ผู้สนใจแจ้งความจำนงขอสมัครเข้ารับเลือกตั้งสำหรับท้องถิ่น กทม.โดยส่งข้อมูลไปที่ https://bit.ly/2VeZEZu ภายใน 15 ม.ค.2564 เพื่อเข้ากระบวนการสรรหาผู้สมัครเตรียมลงเลือกตั้ง โดยมีเงื่อนไขกำหนดไว้ว่า "ในการหาเสียงเลือกตั้งจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วยทุนทรัพย์เอง และจะทำการหาเสียงร่วมเป็นทีมกับผู้สมัครอื่นๆ ของพรรค ตลอดจนดำเนินการหาเสียงตามแนวนโยบายของพรรค และปฏิบัติตามคำสั่งของพรรคเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยเคร่งครัดทุกประการ"

แต่คำถามยังอยู่ที่ "ใคร" จะมาเป็นตัวแทนประชาธิปัตย์ครั้งนี้ ภายหลังประชาธิปัตย์ครองอำนาจในศาลาว่าการกทม.เกือบ 10 ปีในยุค อภิรักษ์ โกษะโยธิน ต่อเนื่องไปถึงสมัย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้ว่าฯ กทม.ตั้งแต่ปี 2547-2556 โดยเฉพาะ 2-3 ปีที่ผ่านมารายชื่อที่ถูกพูดถึงยังวนเวียนรอบประชาธิปัตย์ตั้งแต่ชื่อ นวลพรรณ ล่ำซำ อภิรักษ์ หรือกระทั่งชื่อพล.ต.อ.จักรทิพย์ แต่กระบวนการภายในขณะนี้ยังอยู่ใน "ชั้นความลับ" การสรรหาแคนดิเดทพร้อมทีมงาน แต่จะเปิดตัวเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองเหมาะสม

ขณะที่แคนดิเดทจากพรรคก้าวไกล หรือ "คณะก้าวหน้า" หลังจากไม่สบความสำเร็จในสนามเลือกตั้ง อบจ. แต่การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ยังเป็นโอกาสที่พรรคก้าวไกลมั่นใจในฐานเสียง "ป๊อบปุล่าโหวต" หรือคะแนนเสียงจากคนกรุงเทพฯ ทั้งหมดมาเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 804,272 คะแนน เมื่อการเลือกตั้งใหญ่ 24 มี.ค.2562 ได้เสียง ส.ส.กทม.มาถึง 9 ที่นั่งเท่ากับพรรคเพื่อไทย เป็นรองเพียงพลังประชารัฐที่ได้ ส.ส.มากที่สุด 18 ที่นั่ง

ที่ผ่านมา "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศเปิดรับสมัครให้ผู้สนใจลงเลือกตั้ง ส.ก.ทั้ง 50 เขตเมื่อวันที่ 11-25 ก.ค. ส่วนตำแหน่งผู้ว่า กทม.ขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการสรรหาและเปิดรับคนที่จะมาดีเบต ท่ามกลางกระแสทาบทาม "อริยะ พนมยงค์" อดีตกรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทยและช่อง 3 ลงสมัครในภาพคนรุ่นใหม่เข้าใจคนยุคดิจิตอลในสเป็ค "หัวก้าวหน้า-เข้าใจปัญหา กทม.-ตั้งใจทำงาน"

การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ตัวแทนจากพรรคการเมืองใหญ่เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีตัวแปรจากกลุ่ม "ผู้สมัครอิสระ" ซึ่งประกาศตัวไปแล้ว 3 คน ตั้งแต่กระดูกชิ้นใหญ่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม.ที่ได้คะแนนเสียงเลือกตั้ง ส.ว.มากที่สุดจากการเลือกตั้ง ส.ว.ทั่งประเทศเมื่อวันที่ 2 มี.ค.2551 อยู่ที่ 743,397 คะแนน ไม่เว้นแต่ชื่อ "ทอม เครือโสภณ" นักธุรกิจชื่อดังเคยประกาศตัวแสดงความสนใจลงสมัครเช่นกัน หรือกระทั่งชื่อ "ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์" อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ยังอยู่ในกระแสข่าวสนามเลือกตั้ง กทม.มาตลอด

แน่นอนว่าขณะนี้มีเพียงผู้สมัครอิสระที่เปิดตัวชิงพื้นที่กระแสสนับสนุนคนกรุงไปแล้วก่อนหน้านี้ เหลือเพียงท่าทีจากพรรคการเมือง 4 พรรคใหญ่ ยังรอจังหวะเปิดชื่อแคนดิเดท "ตัวจริง" ในสถานการณ์เหมาะสมจากนี้ เพื่อไม่ให้ถูกเป็นเป้าโจมตีจนช้ำจนเสียของไปเสียก่อน.