กทม.สั่งคลายล็อค 13 กิจการ-กิจกรรม กลับมาเปิดได้ มีผล 22 ม.ค.นี้

กทม.สั่งคลายล็อค 13 กิจการ-กิจกรรม กลับมาเปิดได้ มีผล 22 ม.ค.นี้

เช็คที่นี่ กทม.สั่งคลายล็อค 13 กิจการแล้ว ย้ำควบคุมมาตรการป้องกัน "โควิด" มีผล 22 ม.ค. ยกเว้น 13 กิจการสั่งปิดต่อไป

วันที่ 21 .. เวลา 15.15 ...พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร(กทม.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 5/2564 ว่า จากที่ กทม.ออกมาตรการควบคุมสถานที่เสี่ยงที่ผ่านมา โดยพบผู้ป่วยสูงสุดที่ 49 รายต่อวันในช่วงปลายปีและต้นปี 2564 จนมาถึงมีผู้ป่วย 10 กว่ารายต่อวัน ซึ่งใช้เวลาควบคุมได้เร็วกว่าการระบาดครั้งแรก จึงขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือ ทำให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร มีการผ่อนปรน 13 สถานที่ให้เปิดได้ แต่ต้องมีมาตรการควบคุมอย่างเคร่งครัด โดยให้มีผลตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 22 ม.ค.ดังนี้

1.สถานที่ตู้เกม มีมาตรการทำความสะอาดบ่อยครั้ง ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

2.ร้านเกมและร้านอินเตอร์เน็ต ต้องทำความสะอาดบ่อยครั้ง ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

3.สถานดูแลผู้สูงอายุ ลดเวลาทำกิจกรรม หลีกเลี่ยงติดต่อสัมผัสกัน

4.สนามแข่งขันทุกประเภท ยกเว้น สนามมวย สนามม้า ห้ามมีผู้ชม และปฏิบัติตามมาตรการ

5.สถานที่ให้บริการห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน โดยรับประทานจาก Set Box เท่านั้น อนุญาตให้มีจำนวนไม่เกิน 300 คน หากเกิน 300 คนต้องขออนุญาตจากสำนักอนามัย กทม.

6.สนามพระเครื่อง ต้องควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการ ห้ามแออัด

7.สถานเสริมความงาม สักและเจาะผิวหนัง จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ (ไม่รับอนุญาตเป็นคลินิกเวชกรรม) ให้ทำความสะอาดที่สัมผัสบ่อย ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ

8.สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส ไม่ให้มีเทรนเนอร์/ผู้ฝึกสอน งดเว้นการอบตัว อบไอน้ำแบบรวม เว้นระยะห่างเครื่องออกกำลังกายอย่างน้อย 2 เมตร 

9.สถานบริการนวดแผนไทย สปา และสถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า ยกเว้นสถานประกอบกิจการอาบนำ้และอาบอบนวด

10.สถานที่ฝึกซ้อมมวย โรงยิม หรือค่ายมวย เปิดได้เฉพาะการฝึกซ้อม การชกลม โดยไม่มีคู่แข่ง การชกมวยแบบล่อเป้า ห้ามจัดให้มีการแข่งขันและไม่มีผู้ชม

11.สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง สเก็ต หรือโรลเลอร์เบลด หรือการละเล่นอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน ห้ามจัดแข่งขันและห้ามมีผู้ชม

12.สถาบันลีลาศ หรือสอนลีลาศ ห้ามจัดประกวดแข่งชัน และห้ามมีผู้ชม

13.โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม) ห้ามแข่งชัน และห้ามมีผู้ชม

161122849563

นอกจากนี้ กทม.ยังสั่งปิดอีก 13 สถานที่ต่อไป ประกอบด้วย 

1.สถานที่บริการผับ บาร์ สถานบันเทิง และสถานประกอบการใดที่เปิดให้บริการคล้ายสถานบริการ

2.สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็กในตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด 

3.สนามมวย

4.โต๊ะสนุ๊กเกอร์ บิลเลียด

5.สนามม้า

6.สนามไก่ชน และสนามซ้อมชนไก่

7.สนามชนโค สนามปลากัด หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน

8.สถานรับเลี้ยงเด็ก (ยกเว้นการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ)

9.สถานประกอบกิจการอาบน้ำ

10.สถานประกอบกิจการอาบอบนวด

11.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน

12.สวนน้ำ สวนสนุก 

13.อาคารสถานที่ของโรงเรียน สถาบันกวดวิชา และสถาบันศึกษาทุกประเภท (ปฏิบัติตามประกาศ ศบค.)

161122853761

โฆษก กทม.กล่าวด้วยว่า สำหรับการเปิดเรียน โรงเรียนสังกัด กทม.ได้เตรียมพร้อมมาตรการควบคุมนักเรียนไว้แล้ว แต่การสั่งเปิดเรียนนั้น กระทรวงศึกษาธิการก็ไม่มีอำนาจสั่งเปิด จึง ต้องรอ ศบค.ประกาศ หากมีการประกาศให้เปิดเรียนได้ในเดือนก.พ. โรงเรียนกทม.ก็พร้อมเปิดเรียน ส่วนการสอบโอเนต กระทรวงศึกษาธิการจะเป็นผู้พิจารณา หากไม่จำเป็น จะไม่มีการสอบ จะมีบางโรงเรียนเท่านั้นที่ต้องใช้การสอบโอเนตในชั้น ป.6 และม.6 ซึ่งจะต้องหารือกับกระทรวงศึกษาธิการก่อน"โฆษก กทม.ระบุ

161121799482

161121819556

161123022656

ขณะที่ นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมแนวโน้มผู้ป่วยในพื้นที่กรุงเทพฯลดลง สอดคล้องกับผู้ป่วยทั้งประเทศ ที่ผ่านมา กทม.สามารถรับมือกับปัญหาเพื่อยุติการแพร่ระบาดของโรคให้เร็วที่สุด โดยมาตรการแรกคือ การค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกเพื่อยุติการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และมาตรการการเฝ้าระวังเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

"กทม.และกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกันเฝ้าระวัง ค้นหาจุดเสี่ยง สำรวจสถานประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าว สุ่มตรวจน้ำลายในพื้นที่ 5 เขต ประกอบด้วย บางขุนเทียน หนองแขม บางบอน บางแค และจอมทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีรายงานผู้ป่วยจำนวนมาก รวมทั้งเร่งค้นหาผู้ติดเชื้อพื้นที่อื่นด้วยบ ซึ่งในวันที่ 12 ก.พ.นี้ จะตรวจครบทั้งหมด"นพ.วิชาญ กล่าว