ชี้ไทยดูสถานการณ์ก่อน 'รัฐประหารเมียนมา' แนะจับตาท่าที 'มาเลเซีย-สิงคโปร์'
"ดร.ปณิธาน" เผยไทยดูสถานการณ์ก่อน "รัฐประหารเมียนมา" แนะจับตาท่าที "มาเลเซีย-สิงคโปร์" ย้ำหลักการอาเซียนไม่แทรกแซง
รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของรัฐบาล เปิดเผยผ่าน เนชั่นทีวี ช่วงเช้านี้ (1 ก.พ.) กรณีเกิดรัฐประหารในประเทศเมียนมา ว่าสถานการณ์ในประเทศเมียนมา มีความคุกรุ่นมาอย่างต่อเนื่อง และความนิยมในตัวของนางอองซาน ซูจี ทั้งในและนอกประเทศได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง กระแสการสนับสนุนจากนานาชาติก็น้อยลง และการระบาดโควิด-19 ความตกต่ำทางเศรษฐกิจ ทางฝ่ายทหารได้เห็นถึงสภาวะการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
และกรณีการโกงเลือกตั้ง และชนกลุ่มน้อยไม่ได้อยู่ในทะเบียนการเลือกตั้ง มีการประท้วงและกดดัน กกต. นำไปสู่ข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันโกงการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเหตุผลที่เป็นทางการ
ถามว่า อองซาน ซูจี เข้ามามีอำนาจไม่อาจประสานกับฝ่ายทหารหรือไม่ ดร.ปณิธาน ระบุว่า มีปัญหาตั้งแต่แรกเรื่องรัฐธรรมนูญ ระบุที่นั่งให้ทหาร และงบประมาณ และมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเยอะ
ถามว่า ข้ออ้างเรื่องการโกงเลือกตั้ง ดร.ปณิธาน ระบุว่า ฝ่ายทหารมองเห็นจุดอ่อนในกรณีรายชื่อคลาดเคลื่อน เพราะมีชนกลุ่มน้อยที่หลากหลาย ทหารพยายามเลื่อนประชุมรัฐสภาออกไป แต่ไม่เป็นผล จึงเข้าควบคุมอำนาจ หรือรัฐประหารแบบซ้ำซ้อน จะกระทบไทยมากน้อยแค่ไหนต้องติดตาม แต่ในอาเซียนไม่มีอะไร เพราะมีหลักไม่แทรกแซงกัน ต้องดูมาเลเซียและสิงคโปร์ จะออกมาแบบไหน
ถามว่า ความนิยมซูจีกับการออกมาต่อต้านนั้น ดร.ปณิธาน ตอบว่า ต้องดูการควบคุมตัวซูจีแบบไหน และรอดูการประกาศฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างไร และต่างชาติจะหันมาสนับสนุนซูจีแบบไหน เพราะเคยมีประเด็นเรื่องโรฮิงญา
ถามว่า ท่าทีรัฐบาลไทยจะเป็นอย่างไรต่อรัฐประหารเมียนมา ดร.ปณิธาน ตอบว่า เนื่องจากว่ายังไม่มีความรุนแรงใดๆ โดยทั่วไปอาจแสดงความห่วงใย สนับสนุนทุกฝ่ายให้พูดคุยกัน แต่โดยธรรมเนียมเราอาจไม่พูดอะไรเร็วนัก รอดูสถานการณ์ก่อน