'อนุดิษฐ์'ลั่นยอมไม่ได้ขบวนการค้ามนุษย์พาเหยื่อแจ้งความถูกบังคับค้ากาม'บาห์เรน'

น.อ.อนุดิษฐ์  นาครทรรพ  ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย พาผู้เสียหายจากขบวนการค้ามนุษย์ จำนวน6 ราย เข้าพบ พล.ต.ต.สยาม บุญสม ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม) เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับแก๊งค้ามนุษย์ชาวไทย ที่เป็นธุระจัดหาหญิงไทยไปบังคับค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรน

น.อ.อนุดิษฐ์  กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้รับการประสานขอความช่วยเหลือมา เมื่อเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา ว่ามี หญิงสาว ถูกล่อลวงไปบังคับค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรน และขณะนี้ได้พากันหลบหนีออกมาจากแหล่งค้าบริการที่บาห์เรน ได้แล้วจำนวน 4 คน ยังไม่มีที่พัก ซึ่งทุกคนกลัวแก๊งค้ามนุษย์ตามมาเจอ และถูกฆ่า จึงสั่งการให้นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ พร้อมทีมงานประสานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อติดต่อผู้เสียหายให้ได้โดยเร็วที่สุด ได้แก่ นายฐานิศร์ ณ สงขลาเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศบาห์เรน ให้เจ้าหน้าที่สถานทูตประสาน ตำรวจบาห์เรน เข้าให้การช่วยเหลือคนไทยโดยเร็วที่สุด

โดยเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2564  ผู้เสียหายได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย  และเข้าพักที่สถานที่กักตัวที่รัฐจัดขึ้น (State Quarantine) จนครบ 14 วัน และวันนี้ตนจึงได้พาผู้เสียหายทั้งหมดเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพล.ต.ต.สยาม เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในการพาผู้เสียหายไปบังคับค้าประเวณีในครั้งนี้

ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) 1 ในเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์  กล่าวว่า  ตนตกงานช่วงวิกฤตโควิดไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว  จึงได้เข้าไปค้นหาสมัครงานที่ลงไว้ในเฟซบุ๊คต่อมาเห็นมีข้อความรับสมัครพนักงาน ทำงานร้านนวดไทย ที่ประเทศบาห์เรน โดยระบุว่ารายได้ดีเดือนละเกือบ 100,000 บาท ตนสนใจและติดต่อพูดคุยผ่านทางแชทไลน์ ทางนายหน้าแจ้งว่าเป็นงานนวดไทยเท่านั้น ที่ร้านไม่มีการค้าประเวณีใดๆ ทั้งสิ้น  จึงถามต่อว่า ตนไม่มีใบอบรมการนวดแผนไทยจะไปได้หรือไม่ ทางนายหน้าบอกว่าไปได้ เมื่อไปถึงบาห์เรนจะต้องเข้าอบรมการนวดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ก็จะสามารถทำงานได้ จึงหลงเชื่อและตกลงจะเดินทางไปทำงานโดยนายหน้าแจ้งว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมด จะหักจากเงินเดือนที่ได้รับโดยผ่อนชำระเป็นงวดๆ จึงตกลงและนัดวันเดินทาง แต่เมื่อเดินทางมาถึงประเทศบาห์เรน มีนายหน้าคนบาห์เรน มารับที่สนามบินพาไปที่พัก และ วันต่อมาถูกยึดพาสปอร์ต บังคับให้ค้าประเวณี หากไม่ทำจะต้องเสียเงิน 130,000 บาท ซึ่งแม่เล้าที่บาห์เรน (แม่แทค) อ้างว่าได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาผ่านนายหน้าไปแล้ว หากไม่มีเงินคืน ก็จะต้องทำงานรับลูกค้า หากไม่ทำจะถูกทุบตีทรมานจนถึงแก่ความตาย

“เหมือนตกนรกทั้งเป็น และพยายามคิดหาหนทางหนีอยู่ทุกวันแต่ไม่มีโอกาส เพราะเด็กที่มาใหม่ จะถูกคุมและมีคนเฝ้าตลอดเวลา เพราะแม่แทคกลัวว่าจะหลบหนี จึงต้องยอมนอนกับลูกค้าทุกวัน มีบางวันต้องรับลูกค้านับ 10 ราย โดยไม่ได้รับเงินใดๆทั้งสิน แม่แทค อ้างว่าหักค่าห้องพัก  หักค่าซักผ้าเช็ดตัว  หักค่าข้าว  หักค่าน้ำ  หักค่าไฟ ฯลฯ หักเงินจนหมดไม่เหลือ” น.ส. เอ ระบุ

น.ส.เอ เล่าต่อว่าตนไม่โวยวาย เพื่อให้แม่แทคคิดว่าตนจะไม่หนีแล้ว ต่อมาแม่แทคยอมให้ตนใช้โทรศัพท์ได้ ยอมให้ตนออกไปข้างนอกได้  จนกระทั้งสบโอกาส ตนจึงนัดกับคนอื่นๆ อีก 3 คน พากันหลบหนีออกมา แต่ไม่รู้จะไปที่ไหน จึงได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากครอบครัว จากนั้น น.อ.อนุดิษฐ์ ติดต่อมาให้ความช่วยเหลือ และประสานงานกันโดยตลอด จนกระทั้งได้กลับประเทศไทยในวันนี้ จึงขอขอบคุณทั้ง 2 ท่าน และขอบคุณเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยประจำประเทศบาห์เรนที่ให้การช่วยเหลือดูแลตน พร้อมคนไทยทุกคนที่ตกทุกข์ได้ยากเป็นอย่างดีในครั้งนี้ด้วย

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า "เรื่องนี่ตนยอมไม่ได้เด็ดขาด เนื่องจากขบวนการค้ามนุษย์ อาศัยจังหวะที่ผู้เสียหาย ตกงานจากภาวะวิกฤตโควิดระบาด  เหยียบย่ำคนไทยด้วยกันเอง แทนที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในยามที่คนไทยทั้งประเทศกำลังลำบาก ตนเชื่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปคม. จะสามารถลากคอแก๊งค์ค้ามนุษย์กลุ่มนี้มาดำเนินคดีได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน โดยในเบื้องต้นกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ติดตามให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้เสียหาย นำกลับภูมิลำเนา

ทั้งนี้ตนต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายสถานทูตไทยประจำประเทศบาห์เรน ,บก.ปคม. , กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ที่ได้ประสานความร่วมมือกัน จนสามารถนำผู้เสียหายกลับประเทศได้ในเวลารวดเร็ว ขอฝากไปยังหญิงสาวไทยที่กำลังหางานในต่างประเทศ ขอให้ท่านได้เข้าสู่ระบบการจัดหางานอย่างถูกกฎหมาย เพื่อลดการถูกล่อล่วง เพราะในขณะนี้ทราบจาก ผบก.ปคม. ว่า มีขบวนการค้ามนุษย์ ทั้งในแถมประเทศตะวันออกกลางและเอเชีย ผ่านการประกาศรับหางานจากช่องทาง โซเชียลต่างๆ

ทั้งนี้ หากใครพบเห็นหญิงไทย ถูกบังคับค้าประเวณีสามารถแจ้งมายังตนได้ทันที ที่เพจเฟซบุ๊ค 'น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ' พร้อมทั้งเรียกร้องให้กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ขยายผลเอาผิดต่อไป