จับตา ศบค.ชุดเล็ก ชง ครม. ต่อพรก.ฉุกเฉิน
'วิษณุ' ให้รอ ศบค.ชุดเล็ก เสนอต่อ พรก.ฉุกเฉิน ทั่วประเทศ หรือ เฉพาะบางพื้นที่ ย้ำต้องสอดคล้องกับแผนวัคซีนที่กำลังจะมาถึง
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การพิจารณาขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วันที่ 22 ก.พ.นี้ ว่า ต้องพิจารณา เพราะว่า พ.ร.ก.ที่ประกาศไว้จะหมดอายุแล้ว ประกอบกับเกิดกรณีการติดเชื้อที่จ.ปทุมธานี ดังนั้นศบค.วงเล็ก จะต้องเสนอเข้ามา แต่มีโอกาสที่จะผ่อนผัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการประชุมศบค.วันจันทร์นี้ ในช่วงบ่าย จากนั้นวันอังคาร จะนำเข้าการประชุมคณะรัฐมนตรี ดังนั้นการขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน ก็ยังต้องดูกันอีกที
เมื่อถามว่า มีโอกาสที่จะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินบางพื้นที่ แทนการประกาศครอบคลุมทั้งประเทศหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ต้องรอให้ศบค.ชุดเล็กเสนอมาก่อน แต่ต้องเข้าใจตรงกันว่า ไม่มีใครได้เบี้ยทวีคูณ ในกฎหมายเขียนไว้ว่า หากมีการประกาศกฎอัยการศึก หรือสถานการณ์ฉุกเฉิน มีโอกาสจะได้เบี้ยทวีคูณ แต่ต้องให้ครม.มีมติ ซึ่งทางครม.ไม่มีมติในเรื่องนี้
สำหรับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังมีผลในการปรามอยู่ เพราะยังมีบางพื้นที่อที่ยังมีการระบาดอยู่ จะเจาะจงลงไปไม่ได้ ว่าเป็นพื้นที่ตำบลไหน ดังนั้นจึงต้องมีการประกาศคุมไว้ แล้วให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปเจาะจงพื้นที่อีกทีหนึ่ง แต่ต้องบอกว่าการประกาศคุมแบบนี้ไม่ใช่การล็อคดาวน์ทั้งประเทศ แต่ประกาศเพื่อโยนอำนาจนี้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่อย่างนั้นผู้ว่าฯ ก็จะสั่งอะไรไม่ได้เลย เพราะตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ ผู้ว่าฯ มีอำนาจเพียงเล็กน้อย
ส่วนแผนการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะสอดคล้องกับแผนวัคซีนที่กำลังจะมาด้วยหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า เกี่ยวข้องกัน เพราะวัคซีนจะมาในสัปดาห์หน้า ก็ต้องมีมาตรการควบคู่กัน ไม่อย่างนั้นจะเกิดลุกลาม แล้วจะกลายเป็นว่าวัคซีนไม่ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นต้องควบคู่กันไปทั้งสองอย่าง ซึ่งความจริงแล้วสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์กว่าวัคซีนคือหน้ากาก และการเว้นระยะห่าง วัคซีนแค่มีส่วนเข้ามาช่วย
"กลัวที่สุดเลยคือคนที่ฉีดวัคซีนแล้วไม่ระมัดระวัง เพราะอย่าลืมว่า ต่อให้ฉีดไปแล้วก็ยังไม่ได้ฉีดเข็มที่สอง และอานุภาพของมันก็ไม่ได้ครอบคลุมทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นต้องเร่งควบคุมทั้งสองอย่างควบคู่กันไป"