'สุทิน'หวังปรับเกณฑ์ประชามติ เสียงเกินกึ่งหนึ่ง
“ประธานวิปค้าน”หวังแก้เกณฑ์ทำประชามติจากเกินกึ่งหนึ่งผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศ เพราะจำนวนสูงเกินไป ชี้ควรเป็นกึ่งหนึ่งผู้มาใช้สิทธิ์
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน เปิดเผยผ่าน “เนชั่นทีวี” ว่า กรณีกมธ.ข้างมาก แพ้ กมธ.เสียงข้างน้อย ในกฎหมายประชามติ เพราะเรื่องนี้เป็นที่สนใจของสมาชิกและสังคมมาก นอกเหนือจากรัฐธรรมนูญและเรื่องอื่นๆ
นายสุทิน ระบุว่า วานนี้ ปัญหาอยู่ที่มาตรา 9 เกี่ยวกับใครเป็นเจ้าภาพและทำเรื่องอะไรได้บ้าง โดยร่างที่เขียนกำหนดกรอบให้คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ทำประชามติถามประชาชนได้เท่านั้น ซึ่งสภา ฯ มีการท้วงติงว่าในประวัติศาสตร์ไม่มีครม.ชุดไหนทำ ยกตัวอย่าง การทำรัฐธรรมนูญ ต้องไปทำประชามติ โดยให้ครม.ไปถาม
ทั้งนี้ สภาฯเกิดปัญหาในใจ เพราะไม่มีสิทธิไปถามได้ด้วยตัวเอง แต่เมื่อครม.ไม่ถามให้ ก็ไม่มีสิทธิ์ ทำให้สมาชิกขอแปรญัตติ โดนายชูศักดิ์ ศิรินิล ขอให้เปิดกว้างไว้ ไม่ต้องให้ ครม. ทำอย่างเดียว
ดังนั้น เมื่อวานจึงลงมติเปิดขอให้กว้าง ดังนั้น จึงต้องแก้มาตราอื่นให้สัมพันธมาตรา 9 และลงมติใหม่
อย่างไรก็ตาม การปรับให้เสร็จไม่เสร็จง่าย เพราะมีจำนวนมาก และเมื่อวานต้องปิดประชุมเวลาเที่ยงคืน ดังนั้น เมื่อไม่เสร็จก็ให้ถอนไปปรับใหม่ 1-2 สัปดาห์ และแจ้งเข้ามา โดยน่าจะต้องเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพราะหากรอสมัยประชุมปกติ อาจไม่ทัน เพราะยังมีเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ
ขณะเดียวกัน ประธานสภาฯ ได้มีการประสานไปยัง ครม. โดยไม่ติดขัดเรื่องนี้ ถือเป็นหลักประกันบางๆ ซึ่งไม่น่ากังวล แต่เรื่องใหญ่ คือ การเกณฑ์คนมาใช้สิทธิ์ เพราะที่เขียนการทำประชามติ ต้องเกินกึ่งหนึ่งผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศ หรือ 25 ล้านคน มองว่าสูงไป สมมุติหากไม่อยากแก้รัฐธรรมนูญ แค่โหวตรณรงค์ไม่ต้องมา ทุกอย่างก็จบ ดังนั้น อยากให้เป็นเกินกึ่งหนึ่งผู้มาใช้สิทธิ์ เหมือนตอนทำรัฐธรรมนูญ 2560