สถิติ5วันคุมประพฤติ พบ "เมาแล้วขับ" สะสมทะลุ 3,730 คดี
อธิบดีกรมคุมประพฤติ เผยสถิติคดีถูกคุมประพฤติ 10 -14 เมษายน รวม3,743 คดี พบ "เมาแล้วขับ" สะสมทะลุ 3,730 คดี ย้ำมาตรการคุมเข้ม ติดอุปกรณ์ EM
นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึงสถิติของคดีที่ศาลสั่งให้คุมความประพฤติ ตั้งแต่วันที่ 10 - 14 เมษายน 2564 ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 3,743 คดี แบ่งเป็น คดีขับรถในขณะเมาสุรา 3,730 คดี , คดีขับเสพ 11 คดี และ คดีขับรถประมาท 2 คดี ทั้งนี้สถิติของวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา พบว่ามีสถิติสูงถึง 1,648 คดี โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกคุมประพฤติมาจากคดีขับรถในขณะเมาสุรา 1,646 คดี และ คดีขับรถโดยประมาท 2 คดี ส่วนจังหวัดที่มีสถิติขับรถขณะเมาสุราสูงสุด อยู่ที่ จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 290 คดี รองลงมาคือ จังหวัดเชียงราย จำนวน 264 คดี และ จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 251 คดี
"กรมคุมประพฤติ เน้นย้ำมาตรการคุมเข้มสำหรับผู้กระทำผิดในฐานความผิดขับรถในขณะเมาสุรา โดยศาลสั่งใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว 11 ราย ยอดสะสม 5 วันขยับเป็น 19 ราย โดยมีเงื่อนไขห้ามออกจากที่พักอาศัยในช่วงเวลาตั้งแต่ 22.00 น. – 04.00 น. เป็นระยะเวลา 15 วัน พักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลา 6 เดือน เฝ้าติดตามและควบคุมดูแลผู้กระทำผิดตลอด 24 ชั่วโมงผ่านศูนย์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว และหากบุคคลใดมีความเสี่ยงสูงจะติดสุรา จะส่งเข้ารับการบำบัด” นายวิตถวัลย์ กล่าว
นายวิตถวัลย์ กล่าวด้วยว่า สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ ร่วมกับอาสาสมัครคุมประพฤติ ภาคีเครือข่าย และผู้ถูกคุมความประพฤติ ยังคงสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการให้บริการประชาชน พร้อมทั้งจัดให้มีการทำงานบริการสังคม โดยการตรวจเยี่ยม แจกน้ำดื่ม ตรวจวัดอุณหภูมิและให้คำแนะนำในการป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 แก่ประชาชนที่เดินทาง ณ จุดบริการประชาชน ด่านชุมชน และด่านตรวจค้น จำนวน 65 จุด มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนทั้งสิ้น 439 คน