'อนุทิน' โพสต์เปิดใจหลังถูก 'หมอไม่ทน' ล่ารายชื่อจี้ลาออก รับมือโควิดล้มเหลว

'อนุทิน' โพสต์เปิดใจหลังถูก 'หมอไม่ทน' ล่ารายชื่อจี้ลาออก รับมือโควิดล้มเหลว

"อนุทิน" โพสต์เปิดใจหลังถูก "หมอไม่ทน" ล่ารายชื่อจี้ลาออก รับมือโควิดล้มเหลว ชี้ทำตามคำสั่งนายกฯมาโดยตลอด

ภายหลัง "หมอไม่ทน" ผุดแคมเปญ ล่ารายชื่อไล่ "อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จี้ให้ "ลาออก" เพื่อให้ผู้ที่มีความสามารถ มีความเหมาะสมมากกว่าเข้ารับตำแหน่ง หลังจากไม่มีความสามารถมากพอในการควบคุมดูแลการแพร่ระบาดของ "โควิด-19" มียอดผู้ลงชื่อร่วมสนับสนุนการ "ไล่อนุทิน" ผ่าน www.change.org ในครั้งนี้ ณ เวลา 19.07 น. วันนี้ (26 เม.ย.64) รวมทะลุ 183,753 รายชื่อแล้ว

161943885651

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ล่าสุด นายอนุทิน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก อนุทิน ชาญวีรกูล เพื่อขอบคุณผู้ที่ให้กำลังใจ พร้อมยืนยันว่ายังมุ่งมั่นทำงานร่วมกับคณะแพทย์และบุคลากรสาธารณสุขเพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อไป พร้อมตอบคำถามประเด็นที่มีคนห่วงว่ามีการยึดอำนาจของกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้

ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจ ทั้งโพสต์ ทั้งไลน์ และ โทรมาด้วยตัวเอง

ผมยังเข้มแข็งดี ทั้งร่างกายและจิตใจ และยังมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับคณะแพทย์ และบุคลากรสาธารณสุข ทั้งของกระทรวงสาธารณสุข และ หน่วยงานต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชน และ การควบคุมโรคให้ได้ผล

บางท่านทั้งให้กำลังใจ และห่วงใยว่ามีการยึดอำนาจ แย่งอำนาจของกระทรวงสาธารณสุข ผมได้แต่ตอบไปว่า รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุด และ เป็นผู้รับผิดชอบ อยู่แล้ว ผมมีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบาย และคำสั่งท่านนายกรัฐมนตรี มาโดยตลอด

ส่วนเรื่องการป้องกัน และ ควบคุมโรคระบาดโควิด-19 นั้น ศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์โควิด หรือ ศบค. เป็นผู้จัดทำนโยบาย พิจารณา ออกคำสั่ง กำกับการปฏิบัติงาน โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยปฏิบัติตามนโยบายของศบค.

หลายครั้งที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอมาตรการควบคุมโรค หากศบค. ไม่เห็นด้วย ก็ต้องกลับมาปรับมาตรการ ทั้งการตรวจ การป้องกัน การรักษา การจัดหายา เวชภัณฑ์ และ การฉีดวัคซีน

ที่ผ่านมา ศบค. เป็นผู้บริหารแบบ Single command มาตั้งแต่ต้น เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 กระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติตามนโยบายศบค. ด้วยดีมาตลอด

จึงขอความกรุณาอย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นการเมือง และสร้างกระแสให้เกิดความขัดแย้ง และส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบสาธารณสุข และบุคลากรทางการแพทย์

ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผมเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา และปฏิบัติตามนโยบาย และ คำสั่งนายกรัฐมนตรี และรายงานการปฏิบัติงาน ให้นายกรัฐมนตรี ทราบทุกครั้ง

ขอยืนยันว่า ไม่มีการยึดอำนาจ ไม่มีการแย่งอำนาจ เพราะ นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร และ ในฐานะผู้อำนวยการศบค.