'แอมมี่ ไชยอมร' พร้อมรับทุกเงื่อนไขศาลหากได้ประกันตัว
ไต่สวนประกันตัว 'แอมมี่' ยันไม่คิดหลบหนี การไปอยุธยาไปทำธุรกิจกับพักผ่อนเป็นประจำ พร้อมรับทุกเงื่อนไขศาล
11 พ.ค. 2564 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน จำเลยที่ 1, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ จำเลยที่ 6 แกนนำกลุ่มราษฎร และนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอตทอมบูลส์ จำเลยที่ 17 ศิลปินกลุ่มราษฎร กรณีถูกขังไม่ได้ประกันตัวในคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร หมายเลขดำ อ.287/2564 (เฉพาะในส่วนของนายไชยอมรถูกขังไม่ได้การประกันตัวจากคดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์)
โดยการไต่สวนช่วงเช้า เริ่มการไต่สวนมีนายไชยอมร หรือแอมมี่ จำเลยที่ 17 ที่ถูกเบิกตัวมาศาล ตามด้วยบิดาและมารดาของแอมมี่ขึ้นเบิกความต่อศาล
นายไชยอมร เบิกความมีเนื้อหาสรุปได้ว่า ตนมีหน้าที่จะต้องดูแลลูกสาว ก่อนถูกส่งตัวเข้าเรือนจำได้พาลูกสาวไปเรียนว่ายน้ำ เพราะลูกสาวสอบตกวิชาว่ายน้ำคนเดียวในชั้นเรียน จึงเป็นห่วงลูกสาวที่สุด แม้จะออกมาต่อสู้ทางการเมืองก็ตาม ก่อนเข้าเรือนจำตนมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับกระจกตา ทุกวันค่าสายตาเปลี่ยน รับแสงได้น้อย มีโอกาสตาบอด การรักษาต้องผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาเท่านั้น ซึ่งโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มีแพทย์เฉพาะทาง และเมื่อเข้าเรือนจำยังมีอาการความดันโลหิตสูงด้วย
นายไชยอมร ยืนยันด้วยว่า ที่ผ่านมาไม่มีเจตนาหลบหนี การเดินทางไปจังหวัดพระนครศรียุธยา เนื่องจากไปพักผ่อนแต่งเพลง และทำธุรกิจ โดยจะเดินทางไปเฉลี่ยเดือนละ 2-3 ครั้ง ขณะที่ถูกจับกุมก็เดินทางไปพักผ่อน ไม่ได้หลบหนี และหากตนได้รับการปล่อยชั่วคราว ยินดีรับทุกเงื่อนไขที่ศาลกำหนด เช่น การไม่พูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ออกนอกประเทศ ไม่ร่วมชุมนุมที่ก่อให้เกิดการยั่วยุหรือก่อให้เกิดความรุนแรง และจะมารายงานตัวที่ศาลทุกนัด ส่วนการติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ EM ได้หรือไม่นั้น ตนยินดีติดเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจที่จะไม่หลบหนี แต่กังวลอาจมีสัญญาณรบกวน เนื่องจากตนต้องทัวร์คอนเสิร์ตและเดินทางข้ามจังหวัด
ด้านบิดาของแอมมี่ เบิกความสรุปได้ว่า แอมมี่มีจิตใจดี รักเพื่อนฝูง มีความประพฤติดีมาตลอด และไม่เคยได้รับการตัดสินโทษทางคดีอาญา ปัจจุบันแอมมี่มีส่วนในการดูแลค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว สำหรับการเลี้ยงดูลูกสาว ที่ผ่านมาเอาใจใส่ลูกสาวอย่างดี และทุกสัปดาห์ แอมมี่จะพาลูกสาวมาพักที่บ้านของตนตลอด หากศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวแอมมี่ ตนยืนยันว่าจะใช้อำนาจในการเป็นพ่อ ดูแลให้แอมมี่ปฏิบัติตาม คำสัญญาที่ให้ไว้ต่อศาลได้
ส่วนมารดาของแอมมี่ เบิกความสรุปได้ว่า แอมมี่มีอุปนิสัยร่าเริง รักเพื่อนฝูง ที่ผ่านมาทราบเรื่องธุรกิจที่แอมมี่ทำกับเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ประกอบธุรกิจที่จังหวัดอยุธยาเป็นที่พักกับร้านอาหารกึ่งผับ ตลอดเวลาที่ผ่านมาแอมมี่เดินทางไปกลับอยุธยาเป็นปกติ หากศาลมีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราว ยืนยันจะดูแลเป็นอย่างดีให้แอมมี่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลสั่ง