ย้อนรอย'งูเห่าสีส้ม' 'อนาคตใหม่-ก้าวไกล' สู่ชายคารัฐบาล

ต้องถือว่าไม่ได้เหนือความคาดหมายอะไรสำหรับผลการลงมติร่างพระราชบัญญัตติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565   วงเงิน 3.1ล้านล้านบาท  หลังที่ประชุมมีมติ269 ต่อ 201 เสียงรับหลักการในวาระแรก

ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญซึ่งจะเป็นด่านสำคัญในการปรับเพิ่ม-ลดในแต่ละกระทรวงก่อนเสนอสู่สภาฯเพื่อลงมติในวาระ2และ3

ทว่าแม้จะเป็นเพียงการลงมติรับหลักการในวาระแรก แต่ผลการลงมติที่ออกมาสะท้อนให้เห็นถึงปรากฎการณ์โดยเฉพาะในส่วนของพรรคฝ่ายค้านอย่างก้าวไกล ที่ปรากฎภาพ “งูเห่ารีเทิร์น” ออกมาอีกระลอก

ไม่ว่าจะเป็น ขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี, คารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ, พีรเดช คำสมุทร และ เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย

ที่เวลานี้ติดโทษแบนห้ามทำทุกกิจกรรมของพรรค หลังโหวตให้ความเห็นชอบรัฐมนตรีในซีกรัฐบาลทั้ง “อนุทิน ชาญวีรกูล” รอนายกฯและรมว.สาธารณสุข และ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา

การลงมติ “รับหลักการ” ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ซึ่งถือเป็นการสวนมติฝ่ายค้านซ้ำสองของพวกเขาทั้ง4คน เริ่มส่งสัญญาณมาตั้งแต่การอภิปรายวันแรกๆ หลัง2ใน4คนคือ “ทนายคารม” และ “หมอเอกภพ”ได้รับการจัดสรรโควตาอภิปรายในส่วนของ “พรรคภูมิใจไทย”

แม้ก่อนหน้านี้บรรดาแกนนำพรรคก้าวไกล อาทิ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค จะให้เหตุผลการไม่ขับทั้ง4คนออกจากพรรค แต่เลือกที่จะใช้โทษแบนและห้ามใช้ชื่อพรรคไปทำกิจกรรมใดๆว่า ไม่อยากเตะหมูเข้าปากหมา ส่งส.ส.ไปให้พรรคร่วมรัฐบาลก็ตาม

แต่โดยพฤตินัยแล้วเวลานี้ทั้ง4คนถือว่าขาดจากพรรคโดยสิ้นเชิง

0 ย้อนรอยปฐมบท “งูเห่าที่ส้ม”

ทว่าปรากฎการณ์ “งูเห่าสีส้ม” ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก หากยังจำกันได้ เมื่อครั้งที่ยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ ได้เกิดปฐมบท “งูเห่าสีส้ม” ขึ้นในปี2562 ซึ่งพรรคมีมติขับ "4ส.ส."  ไม่ว่าจะเป็น กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี,พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี,ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ และ จารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี

หลังลงมติสวนทางกับพรรคในหลายครั้ง ทั้งการใช้ความเห็นชอบพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นหน่วยงานบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ.2562 เมื่อวันที่17ต.ค.2562

ถัดมาอีกเพียง3วัน ยังปรากฏภาพส.ส.อนาคตใหม่โหวต “รับหลักการ” ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณร่ายจ่ายประจำปี 2563 วาระที่ 1 ส่วนทางฝ่ายค้านที่ “งดออกเสียง” ท่ามกลางกระแสข่าวส.ส.บางคนที่ดอดเข้าธรรมเนียบรัฐบาล

และในห้วงที่เกมขับเคี่ยวนับแต้มระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านกำลังดำเนินมาถึงจุดเดือด ในวาระที่สภาผู้แทนราษฎรลงโหวตตั้ง – ไม่ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาผลกระทบคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และผลกระทบจากมาตรา 44 ซึ่งเป็นผลให้สภาล่มถึงครั้ง 2 ซ้อน หลังรัฐบาลแพ้โหวตและขอให้มีการนับคะแนนใหม่

กลับยังปรากฏชื่อส.ส.งูเห่ากลุ่มดังกล่าวไปลงชื่อเป็นองค์ประชุม กระทั่งรัฐบาลสามารถพลิกชนะ “โหวตคว่ำ” ญัตติดังกล่าวได้ในท้ายที่สุด

 

0งูเห่ารีเทิร์นจาก"อนาคตใหม่"สู่ "ก้าวไกล"

ทว่าภายหลังการขับ4ส.ส.งูเห่า กลับยิ่งเป็นการเพิ่มแต้มต่อให้ฝั่งรัฐบาล ยิ่งไปกว่านั้นภายหลังการยุบพรรคพรรคอนาคตใหม่ “ค่ายสีส้ม”กลับเผชิญปรากฏการณ์ “งูเห่า” รีเทิร์นรอบสอง

เมื่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อปี 2563 ได้เกิดเสียง “10ส.ส.งูเห่า” อนาคตใหม่ “โหวตไว้วางใจ” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรวม6คน

ท่ามกลางกระแสข่าว คลิปเสียงดูดส.ส.ของบรรดาพรรครวมรัฐบาล

ก่อนที่ต่อมาจะปรากฏชื่อ “10 ส.ส.” ทั้ง กฤติเดช  สันติวชิระกุล ส.ส.แพร่ ,นายกิตติชัย  เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา ,นายฐิตินันท์  แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น ,นายมณฑล  โพธิ์คาย ส.ส. กทม. ,นายวิรัช  พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ,

โชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส.กทม. ,สมัคร  ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร,นายสำลี  รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ,อนาวิล  รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี และเอกการ  ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่  ย้ายไปร่วมชายคาภายใต้สังกัดรัฐบาล

กระทั่งมีการก่อร่างสร้างพรรคใหม่คือ “พรรคก้าวไกล” ภายใต้การนำของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”  เวลานั้นค่ายสีส้มสามารถกวาดต้อน อดีตส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เข้าไปอยู่ในสังกัดได้เป็นจำนวน 55 คน

โดยชื่อของ  “ทนายคารม” ถือเป็นชื่อที่กรอกใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคเป็นชื่อสุดท้ายท่ามกลางกระแสข่าวความไม่ลงรอยกับคนในพรรค

กระทั่งเกิดเป็นปรากฏการณ์โหวตสวนครั้งล่าสุดเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่2มิ.ย.ที่ผ่านมา กลายเป็นงูเห่าสีส้มระลอกที่3ที่พรรคก้าวไกลกำลังเผชิญ