ฝ่าวิกฤติ “วัคซีน-การเมือง” “ประยุทธ์” ไม่ออก-ไม่ถอย-ไม่ยอมแพ้
ศึกโควิด-19 ระลอกนี้ มีอนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ เครือข่ายอำนาจ 3 ป. และพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเดิมพัน ไม่ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นหรือแย่ลง จะส่งผลต่อเกมการเมืองที่จะวางเอาไว้ในอนาคต
ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ พุ่งทะลุหลักหมื่นคนมาหลายวัน โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดอยู่แค่หลักหมื่นต้นๆ และมีโอกาสสูงที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะทะยานพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตรงกันข้ามกับคะแนนนิยมของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม และ “พรรคร่วมรัฐบาล” มีแต่จะลดน้อยถอยลง
จากการระบาดรอบแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์-รัฐบาล สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อยู่หมัด “ฝ่ายการเมือง” ที่ออกมาเดินฉากหน้ารับแต้มกันไปเต็มๆ แถมเมื่อเดินเข้าสู่โหมดของการเยียวยา โครงการที่รัฐคิดมาตอบโจทย์โดนใจประชาชน จนคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ สูงปรี๊ด
สามารถวัดได้จากผลการเลือกตั้งซ่อมทุกสนาม พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นตัวชูโรง และมีนโยบายเยียวยาของรัฐเป็นกำลังเสริม สามารถคว้าชัยได้ทุกสนามเลือกตั้งซ่อม จนทั้ง พล.อ.ประยุทธ์-พลังประชารัฐ ค่อนข้างมั่นใจว่าหากลงเลือกตั้งสมัยหน้ามีโอกาสโกยเก้าอี้ ส.ส. แบบแลนด์สไลด์
พล.อ.ประยุทธ์-พลังประชารัฐ มั่นใจจนคิดเกมแก้รูปแบบการเลือกตั้ง หันมาใช้ “บัตร 2 ใบ” เพราะคิดว่า พลังประชารัฐ พร้อมที่จะท้าสู้ พรรคเพื่อไทย (พท.) และหากใช้กติกาเดิม “บัตรเลือกตั้งใบเดียว” อาจจะทำให้ พลังประชารัฐ ไม่ได้เก้าอี้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์-พลังประชารัฐ ตกลงอย่างฮวบฮาบ จึงมีโอกาสสูงที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับระบบเลือกตั้งอาจต้องแท้งตามไปด้วย
ดังนั้นจึงต้องจับตาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ของ พล.อ.ประยุทธ์-รัฐบาล จะสามารถกู้คะแนนนิยมกลับคืนมาได้บ้างหรือไม่ และหากไม่สามารถทำได้อย่างหวัง เกมการเมืองที่วางเอาไว้อาจจะต้องยกเครื่อง ปรับแผนกันใหม่
โดยความหวังในการกอบกู้สถานการณ์โควิด-19 หลังจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ฝากไว้กับ “ทีมหมอ”สวนทางกับ “ทีมการเมือง” ที่ค่อยๆถอยฉากออกมา เพื่อเปิดทางให้ “ทีมหมอ” ทำงานอย่างเต็มที่ คอยเซ็ตระบบ-วางระบบการทำงาน เพื่อกอบกู้สถานการณ์
จากเดิมข้อมูลที่เกี่ยวกับ “วัคซีน” โดยเฉพาะการเซ็นสัญญากับแอสตร้าเซนเนก้าถูกเก็บไว้ในลิ้นชักแห่งความลับ แต่เมื่อมีเอกสารหลุดออกมา “ทีมหมอ”ต้องรับหน้าแทนฝ่ายการเมือง โดยเป็นฝ่ายออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง ชี้แจงตัวเลขที่ตกลงการส่งมอบ พร้อมทั้งชี้แจงทางการปฏิบัติทั้งหมด
ขณะเดียวกัน “วัคซีนไฟเซอร์” จำนวน 1.5 ล้านโดส ที่สหรัฐอเมริกาบริจาคให้กับทางการไทย เมื่อมีข้อเรียกร้องให้ใช้สูตรบูตเตอร์ ฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ก่อน แม้จะฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว พล.อ.ประยุทธ์-รัฐบาล ก็ไม่คัดค้าน ปล่อยให้ทีมหมอบริหารจัดการกันเอง
นอกจากนี้ยังมีปมที่ “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข และ “ทีมหมอ” ต้องการให้ทาง พล.อ.ประยุทธ์-ศบค. ออกคำสั่งห้ามส่งออกวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในประเทศ เพื่อนำวัคซีนมาเร่งฉีดให้กับประชาชนก่อน
โดย พล.อ.ประยุทธ์-ศบค. ได้เรียก อนุทิน-ทีมหมอ มาหารือที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหาทางออกร่วมกัน เพราะรู้ดีว่าหากออกคำสั่งห้ามส่งออกก็จะเกิดผลเสียอย่างสูง โดยเฉพาะมิติความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับมิตรประเทศเพื่อนบ้าน
จึงต้องจับตาว่า อนุทิน-ทีมหมอ ที่จำเป็นต้องไปเจรจากับทางแอสตร้าเซนเนก้าอีกรอบ จะมีข้อเสนอ-ข้อต่อรองในทิศทางใดเพื่อหาทางออกกรณีส่งมอบวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และมีทางใดบ้างที่ไม่ให้กระทบต่อมิตรประเทศ
หากสังเกตแนวทางบริหารจัดการของพล.อ.ประยุทธ์ ในระยะหลังจะเห็นได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ พยายามหลบฉากเข้ามุม คอยประเมินสถานการณ์แบบซุ่มเงียบ เพื่อลดกระแสต่อต้านที่พุ่งตรงมาที่ตัวเองอย่างเดียว ชนิดหยิบจับอะไรก็ผิดไปหมด
พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศไว้ “เพื่อช่วยให้พี่น้องประชาชนได้ผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้ ผมขอให้พวกเราทุกคนไม่ยอมแพ้ต่อช่วงเวลาที่ยากลำบาก ผมและรัฐบาลจะหาทางช่วยทุกท่านให้ได้มากที่สุด และจะไม่มีวันยอมแพ้ต่อสงครามครั้งนี้ ไม่ลดละเลิกล้มความพยายาม ไม่ว่าจะมีอุปสรรคหรือปัญหาใดๆ และจะสู้จนกว่าเราจะเอาชนะได้”
ถือเป็นการส่งสัญญาณดับกระแสข่าว “ยุบสภา” ดับกระแสข่าว “พรรคร่วมรัฐบาล” ถอนตัวไปด้วย แถมเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ หลบฉากลดกระแสต้านให้กับตัวเอง กลับเป็น"อนุทิน" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ต้องมาคอยรับกระสุนแทน แม้จะไม่ดีต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล แต่ย่อมดีต่อตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่บ้าง
ดังนั้น หลังจากนี้จะเห็นภาพ “ทีมหมอ” ที่ต้องออกมาคอยชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน และต้องใช้เครดิตที่มีทั้งหมด วางเดิมพันกับสงครามโควิด-19 แบบเทหมดหน้าตัก
ศึกโควิด-19 ระลอกนี้ มีอนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ เครือข่ายอำนาจ 3 ป. และพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเดิมพัน ไม่ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นหรือแย่ลง จะส่งผลต่อเกมการเมืองที่จะวางเอาไว้ในอนาคตอย่างไร แต่ทั้งองคาพยพมีข้อตกลงกันไว้ว่า นายกฯไม่ลาออก พรรคร่วมไม่ถอนตัว และรัฐบาลไม่ยอมแพ้ต่อสถานการณ์กดดันรอบด้าน