'กรณ์' เสนอ ออก พ.ร.ก.โอนอำนาจให้ 'จว.-อปท.' ดูแลผู้ป่วยโควิด - กระจายคิววัคซีนให้เอกชน

'กรณ์' เสนอ ออก พ.ร.ก.โอนอำนาจให้ 'จว.-อปท.' ดูแลผู้ป่วยโควิด - กระจายคิววัคซีนให้เอกชน

"กรณ์" ชี้ ระบบราชการรวมศูนย์ไม่ทัน แก้ปัญหาโควิด และ แนวทางเร่งด่วน โอนอำนาจให้ ท้องถิ่น-กระจายคิววัคซีนให้เขต-เอกชนช่วยบริหารจัดการ พร้อมย้ำ3ข้อต้องปลดล็อกเพื่อรับมือวิกฤตโรคระบาดให้ทัน

        นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเพื่อให้ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล ในการแก้ปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า ต้องปลดล็อกระบบราชการรวมศูนย์ เพราะการรวมศูนย์อำนาจทำให้การแก้ปัญหาล่าช้า และความล่าช้าที่เกิดขึ้นอาจทำให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต ทั้งนี้รัฐบาลต้องโอนอำนาจหน้าที่ดูแลประชาชน ลงสู่ระดับท้องถิ่นโดยด่วน และไม่ใช่แค่การสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเท่านั้น ต้องลงถึงระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ผ่านการออกพระราชกำหนด ปลดล็อกเงื่อนไขอุปสรรคทางราชการเพื่อแก้วิกฤตโควิด-19 และที่สำคัญ คือ การปลดล็อกระบบจัดการคิวรับวัคซีนให้เอกชนบริหารจัดการ เพราะจากภาพความแออัดที่ศูนย์ฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมรัฐบาลไม่กระจายการฉีดลงไปให้เขตหรือแม้แต่เอกชนดูแล หรือมีอุปสรรคเพราะการเมืองระหว่างพรรค

   162744065058

      นายกรณ์ ระบุด้วยว่า ตลอด2 เดือนที่ผ่านมา พรรคกล้าพยายามผลักดันให้รัฐบาลปลดล็อกระบบราชการรวมศูนย์ หลายเรื่อง แต่ยังไม่มีผลปรากฎชัดในทางปฏิบัติ ได้แก่  1. ปลดล็อก การเข้าถึงยาฟาวิพิราเวีย , 2. ปลดล็อก ระบบการตรวจโควิดด้วย antigen test แทนคอขวด PCR และ 3. ปลดล็อก ระบบ Home Isolation ทั้งนี้ตนมองว่าหากในศูนย์ตรวจ Rapid Antigen Test  เมื่อตรวจพบเชื้อ ควรมีสิทธิมอบกล่องรักษาโควิด-19 ให้ผู้ติดเชื้อทันที โดยในกล่องควรมียารักษาอาการต่างๆ สมุนไพรไทย และยาฟาวิพิราเวีย พร้อมอุปกรณ์วัดไข้และวัดออกซิเจน แต่ปัจจุบันพบว่าต้องรอส่วนกลางตามแจก ซึ่งล่าช้า และช้าก็ช้า มาถึงก็ต้อแจกทีละบ้าน   ดังนั้นการปลดล็อกการแก้ปัญหาโควิดให้มีประสิทธิภาพ รัฐต้องนำเทคโนโลยีการบริหารจัดการข้อมูลมาใช้ทุกขั้นตอนเพื่อให้ทันต่อการรับมือวิกฤตสงครามโรคระบาดให้เร็วที่สุด.