เพื่อไทย สยบลือ'ฮั้วงบ' ชงสตง.สอบ 1.6 หมื่นล้าน
เพื่อไทย สยบลือ'ฮั้วงบ' ชงสตง. ตรวจสอบ 1.6 หมื่นล้าน พร้อมเสนอสำนักงบฯ ตัดข้อความที่คลุมเครือกันนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ จ่อชงญัตตืซักฟอก16ส.ค.
ที่รัฐสภา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 กล่าวว่า วันนี้กมธ.สัดส่วนพรรคเพื่อไทยได้ให้ข้อสังเกต เพื่อกำหนดทิศทางว่างบกลางที่ได้มาจากการแปรญัตติ จำนวน 1.63หมื่นล้านบาท ควรนำไปใช้อย่างไร เพื่อให้ตรงวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายบรรเทาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในโควิด–19 เท่านั้น โดยต้องไม่นำไปใช้ในเรื่องอื่น
เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายงบกลาง ไม่ปรากฎว่ามีในรายงานตรวจการเงินของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่แสดงถึงการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์ และประสิทธิภาพ ในการใช้จ่ายงบกลางของหน่วยงาน จึงเห็นควรให้มีการตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งเป็นหน้าที่ และอำนาจ การตรวจสอบของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2561 โดยต้องเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ รวมทั้งเผยแพร่ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ประกาศใช้บังคับแล้ว ขอให้ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ปรับปรุงระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด – 19 พ.ศ.2563 โดยขอให้ตัดความใน ข้อ 4 (1) วัตถุประสงค์เพื่อเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ออกทั้งหมด
เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยว่าจะมีการใช้งบกลางในทางที่ผิดประเภท เช่น เกรงว่าจะมีการเอางบกลางไปปราบปรามประชาชนในการชุมนุม จะได้ไม่ให้เป็นข้ออ้างในการดำเนินการดังกล่าว และให้ยึดข้อ 9 ที่ระบุว่า การโอนหรือเปลี่ยนแปลงรายการจะกระทำไม่ได้ หมายความว่ารายละเอียดงบกลางเขียนไว้ชัดเจนไม่สามารถนำไปทำอย่างอื่นได้เลย เพื่อเป็นแนวปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ตัวแทนสำนักงบประมาณ ที่ร่วมประชุมจะรับข้อสังเกตดังกล่าวไปปฏิบัติ
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในกระบวนการอนุมัติ ควรระบุรายละเอียดโครงการให้ชัดเจน เพื่อให้การเบิกจ่ายงบประมาณ มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้ เพื่อให้การใช้งบประมาณมีความคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน โดยให้คณะกมธ.ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการติดตาม ตรวงสอบ และรายงานให้สภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
นายประเสริฐ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติดังกล่าว ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ แต่จะเป็นเวลาใดนั้น ขณะนี้รอการประสานกับประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง ขณะนี้รายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปราย ในส่วนของพรรคเพื่อไทยดำเนินการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว โดยจะยื่นอภิปรายรัฐมนตรี 2 – 5 คน เหลือเพียงการรวบรวมรายชื่อรัฐมนตรีในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ โดยจะสรุปร่วมกันเป็นครั้งสุดท้ายวันที่ 11 ส.ค.นี้