ตร. เผยตัวเลขเอาผิด 'ม็อบ' 299 คดี จับตาชุมนุมแยกราชประสงค์ 10 ส.ค.นี้
บช.น. เตือน จัดม็อบ แยกราชประสงค์ 10 ส.ค.นี้ ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.ควบคุมโรค เผยดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุมแล้ว 299 คดี
9 ส.ค. 64 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) และโฆษก บช.น. กล่าวถึงมาตรการในการรักษาความปลอดภัย ที่มีการนัดชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 10 ส.ค.นี้ว่า มีการนัดหมายรวมตัวกันที่แยกราชประสงค์ตั้งแต่เวลา 13:00 น เป็นต้นไป
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอเรียนว่าพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดอย่างเข้มงวด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 การรวมตัวด้วยประการหนึ่งประการใด การชุมนุมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค จะเป็นความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.ควบคุมโรค นอกจากนี้หากการชุมนุมมีการปิดการจราจรหรือใช้เครื่องเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือกระทำอย่างอื่นอย่างใดก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย จะเป็นความผิดในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม ที่รวมตัวในเขตกรุงเทพฯ จนถึงบัดนี้ มีการดำเนินคดีแล้ว 299 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นแล้วจำนวน 196 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 103 คดี ขอเตือนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุม การชักชวนไม่ว่าจะเป็นการชักชวนด้วยประการหนึ่งประการใดการชักชวนผ่านสื่อสังคมออนไลน์โซเชี่ยลมีเดียถือว่าเป็นการกระทำความผิด จะได้รับโทษตามกฎหมาย การให้การสนับสนุนการชุมนุม การเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม เหล่านี้ถือเป็นการร่วมกระทำความผิดด้วย
"อย่างที่เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้รับจ้างนำคนเข้ามาร่วมชุมนุม ส่วนผู้ว่าจ้างขออนุญาตสงวนชื่อไว้ ถ้าเอ่ยชื่อมาทุกคนจะรู้จัก ในส่วนที่มีการชักชวนในสื่อสังคมออนไลน์กองบัญชาการตำรวจนครบาลจะส่งข้อมูลไปยังกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์เพื่อดำเนินคดีในทุกๆ การชักชวน" พล.ต.ต.ปิยะ ระบุ
ส่วนการตั้งเครื่องกีดขวางโดยใช้ถังน้ำมันที่บริเวณพระมหาบรมราชวัง ที่หลายคนเป็นห่วงในความปลอดภัย ขอให้มั่นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าอันตราย ตำรวจได้รับอันตรายก่อน ก่อนนำมาใช้มีการตรวจเรียบร้อยว่าไม่เป็นอันตรายแน่นอน
โฆษก บช.น. กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 5 นาย ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก 3 นายส่วนอีก 2 นายอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งในวันนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ไปเยี่ยม ส.ต.ต.นิตินัย ครองสม ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ ร้อย 3 กองกำกับการควบคุมฝูงชนกองบังคับการควบคุมฝูงชน ที่ได้รับบาดเจ็บถูกยิงด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์คล้ายปืนอัดลม แพทย์ได้ทำการผ่าตัด ผลการตรวจรักษาโชคดีที่กระสุนเฉี่ยวหลอดลมไปติดที่ไทรอยด์ ถ้าหลอดลมฉีกขาดอันตรายถึงชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวอยู่ระหว่างพักคอย ถ้าพูดง่ายๆ คือ"ถูกลอบกัด" ขณะนี้เจ้าหน้าที่มีหลักฐานบางส่วนแล้วถ้ามีหลักฐานที่ชัดเจนจะได้ดำเนินการออกหมายจับต่อไป
สำหรับทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายเบื้องต้นได้ทำการสำรวจ เป็นรถยนต์ของทางราชการเสียหายทั้งสิ้น 7 คันรถจักรยานยนต์ 4 คัน ตู้ยามตำรวจและตู้ยามชุมชนอีก 3 แห่ง นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินของประชาชนในละแวกนั้นได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน จะมีการร้องทุกข์เพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ได้เร่งพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงภาพรวมการจัดคาร์ม็อบว่า วันที่ 1 ส.ค.มีการจัดคาร์ม็อบ 40 จังหวัด มีผู้เข้าร่วมประมาณหมื่นกว่าคน ส่วนวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา มีประมาณ 20 จังหวัดที่จัดคู่ขนาน มีผู้เข้าร่วมน้อยลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ประมาณ 3,000 กว่าคน เพราะมีสถานการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นในการชุมนุม ในส่วนของผู้ที่มาชุมนุมแยกเป็น 2 ส่วนชัดเจน คือกลุ่มที่มาชุมนุมต่อต้านรัฐบาล อีกส่วนคือมาชุมนุมแล้วก่อให้เกิดความวุ่นวายความไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง ในส่วนนี้จะต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังต่อไป โดยทั้งนี้ทั้งนั้น ตำรวจจะยึดกรอบตามอำนาจกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป.