“นิพิฏฐ์”ชี้คดี“ผู้กำกับโจ้”คลุมถุง-อาจไม่เข้าข่ายเจตนาฆ่าเหตุช่วยซีพีอาร์
“นิพิฏฐ์”ชี้คดี“ผู้กำกับโจ้”คลุมถุง-อาจไม่เข้าข่ายเจตนาฆ่าเหตุช่วยซีพีอาร์ ชี้เป็นเพียงคดีรีดเอาทรัพย์ ทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย มั่นใจตำรวจ-อัยการระวังไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.จังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า คดีคลุมถุงดำ กับ การซ้อมผู้ต้องหา ตำรวจกับคดีคลุงถุงดำซ้อมผู้ต้องหา มิใช่ของใหม่ แต่มีมานานแล้ว สมัยผมยังว่าความอยู่ ตอนนั้นตนยังห้าวอยู่ ก็แบบนี้แหละเหมือนกันเป๊ะ!! หนักกว่านี้เสียอีกคดีนั้น ใส่กุญแจมือ ใช้น้ำราดพื้นให้ผู้ต้องหานั่งแล้วใช้ไฟช้อตที่พื้น จนผู้ต้องหารับสารภาพ แต่ผมก็สู้คดีหลุดเพราะการสอบสวนไม่ชอบ ทั้งที่มียาเสพติดในครอบครองจริง
คดีที่นครสวรรค์ ตนอยากเตือนตำรวจว่า อย่าทำตามกระแส เพราะจะทำงานยาก คดีนี้ผิดแน่นอน (แต่ใครผิดบ้างไม่รู้) มีการทำร้ายผู้ต้องหาจนตาย แต่การสอบสวนเพื่อให้สามารถลงโทษผู้ต้องหาได้ตามข้อหาที่เป็นจริง ไม่ใช่เรื่องง่าย นักกฎหมาย ลองตอบคำถามตนดู
1.คดีนี้เป็นการฆ่าโดยเจตนาเล็งเห็นผลหรือไม่ ถ้าจะตอบแบบไม่คิดอะไร ตอบแบบสูตรสำเร็จ ตอบแบบพวกขี้เกียจอ่านตำรา ยกกาแฟขึ้นดื่ม ค่อยๆวางแก้วลงวางมาดนิดหน่อย ก็ตอบตามแนวฎีกาที่ 5332/2560 ว่า เป็นการฆ่าโดยเจตนา โดยเล็งเห็นผล
2.ตนจะถามต่อไปว่า ถ้าเจตนาฆ่า แล้วทำไมต้องกู้ชีพด้วยการทำ CPR เพราะตามคลิปเห็นชัดว่ามีการกดกระตุ้นหัวใจหลายครั้ง แต่ไม่สามารถกู้ชีพคืนได้ ถ้าเจตนาฆ่า เมื่อตายแล้วก็จบสิ สมเจตนาที่ทำแล้ว จะไปกู้ชีพทำไม
3.หรือคดีนี้เป็นเพียง "รีดเอาทรัพย์" เพราะถ้าเป็นการรีดเอาทรัพย์ ก็ต้องเริ่มด้วยการตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มิใช่ เริ่มด้วยฆ่าด้วยเจตนา
“ทั้งหมดเป็นเรื่องยากที่คนไม่เรียนกฎหมายจะเข้าใจ ผมเขียนเรื่องนี้เพียงเตือนด้วยความรู้น้อย ไม่อยากให้ผิดพลาด แต่คิดว่ามือสอบสวนของสตช.ก็คงระดับมือพระกาฬ ประการสำคัญตำรวจ และ อัยการ ต้องไม่ทำตามกระแส มิฉะนั้น การลงโทษก็ไม่เป็นไปตามสัดส่วนแห่งการกระทำความผิด”
นายนิพิฏฐ์ ระบุต่อว่า เรื่องนี้ประชาชนต้องการเห็นการดำเนินคดีที่รวดเร็ว เป็นธรรม และ ผู้กระทำผิดต้องถูกลงโทษ ไม่ยากหรอก พยานหลักฐานชัด ยากที่การตั้งข้อหา ว่า เจตนาฆ่าโดยการเล็งเห็นผล หรือ รีดเอาทรัพย์ ทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย???
“มีคนถามผมเยอะว่าความเห็นผมเป็นอย่างไร ผมได้แต่ตอบว่า ผมเป็นนักกฎหมายบ้านนอก บำเพ็ญพรต บำเพ็ญเพียรภาวนาอยู่ตามป่าเขา เรื่องอย่างนี้อย่ามาถามผมเลย”