‘สามารถ’จี้ชง ป.ป.ช.สอบ รฟม.ไม่ส่งเอกสาร รฟฟ.สีม่วงใต้ให้‘ผู้สังเกตการณ์’
“รองหัวหน้า ปชป.” ตั้ง 5 คำถามถึง “รฟม.” ปมไม่ส่งเอกสารบางรายการถึง “ผู้สังเกตการณ์” โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ 7.8 หมื่นล้าน สะพัดต้องการหนีศึกซักฟอก จี้ชี้แจงข้อเท็จจริง เรียกร้อง “ค.ป.ท.” ชง “ป.ป.ช.” ลุยสอบต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2564 นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกล่าวถึงกรณีการล้มประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ วงเงิน 78,720 ล้านบาท โดยอ้างว่าส่งเอกสารบางรายการไปไม่ถึงผู้สังเกตการณ์ เนื่องจากมีการระบาดของโควิด-19 ว่า กรณีดังกล่าวมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าแท้จริงอาจเป็นเพราะต้องการหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร แต่สุดท้ายไม่มีการอภิปรายเรื่องนี้ จึงมีเหตุชวนให้น่าสงสัยว่าข้ออ้างของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จริงหรือไม่ ถ้าจริง รฟม. ต้องกล้าแสดงหลักฐาน เพราะ รฟม. ลงนามในข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) กับผู้เข้าร่วมประมูล และผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) หรือ ACT ภายใต้โครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยผู้สังเกตการณ์เป็นบุคคลภายนอกหรือภาคประชาสังคมที่มีความเชี่ยวชาญ และ รฟม. ต้องเปิดโอกาสให้ผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมสังเกตการณ์ประมูลทุกขั้นตอน รฟม. ต้องให้ข้อมูลเกี่ยวข้องด้วย เช่น ร่างทีโออาร์ ร่างประกาศเชิญชวน และร่างสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง เป็นต้น หากกรณีพบว่า รฟม. มิได้ปฏิบัติตามหรือกระทำการใด ๆ ที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลงคุณธรรม หรือพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต หรืออาจนำไปสู่การทุจริต ผู้สังเกตการณ์ต้องรายงานต่อ ACT เพื่อให้ ACT รายงานต่อฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต (ค.ป.ท.) พิจารณาดำเนินการต่อไป
อ่านข่าว : รฟม.แจงล้มประมูลรถไฟฟ้าม่วงใต้ ทำผิดหลักข้อตกลงคุณธรรม
นายสามารถ ระบุว่า ในการประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ รฟม. อ้างว่าส่งเอกสารบางรายการไปไม่ถึงผู้สังเกตการณ์ เนื่องจากมีอุปสรรคเกิดจากการระบาดของโควิด-19 แต่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า รฟม. อาจต้องการหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในประเด็นการใช้เกณฑ์ประมูลเหมือนกับการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกที่ถูกฟ้องร้องอยู่ ในที่สุดไม่มีการพูดถึงเรื่องการประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อเร็ว ๆ นี้ ด้วย
นายสามารถ ตั้งคำถามถึงกรณีการไม่ส่งเอกสารบางรายการให้ผู้สังเกตการณ์ว่า 1. รฟม.ส่งเอกสารไปทางใดจึงไม่ถึงผู้สังเกตการณ์ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นพบว่าแม้จะอยู่ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ก็ตาม ไม่ว่าไปรษณีย์หรือผู้ประกอบการส่งเอกสารอื่นก็ยังคงทำงาน อาจจะล่าช้าไปบ้าง แต่ถ้า รฟม.ส่งเอกสารผ่านทางอีเมล หรือไลน์ด้วยก็จะสามารถไปถึงผู้สังเกตการณ์ได้ในพริบตา
2. เอกสารใดบ้างที่ รฟม.ส่งไปไม่ถึง หากเป็นร่างทีโออาร์ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่จะชี้ให้เห็นถึงเกณฑ์ประมูล ผู้สังเกตการณ์ก็ไม่สามารถให้ความเห็นได้ว่าร่างทีโออาร์เหมาะสมหรือไม่ ทั้งนี้ รฟม.ใช้เกณฑ์เทคนิคประกอบเกณฑ์ราคาซึ่งถูกกล่าวหาว่า “ย้อนแย้ง” กับความต้องการของ รฟม.ที่มุ่งหวังจะได้ผู้รับเหมาที่เก่งด้านเทคนิค เนื่องจากถ้าใช้เกณฑ์เทคนิคประกอบเกณฑ์ราคาจะลดความสำคัญด้านเทคนิคลง อีกทั้ง รฟม.ไม่อนุญาตให้ผู้รับเหมาต่างชาติใช้ผลงานจากต่างประเทศมาอ้างเป็นผลงานได้ ทำให้ผู้รับเหมาต่างชาติเข้าร่วมประมูลได้น้อยราย ทั้ง ๆ ที่เป็นการประกวดราคานานาชาติที่ต้องการให้มีการแข่งขันอย่างกว้างขาง และช่วยลดการสมยอมราคา (ฮั้ว)
3. ผู้สังเกตการณ์ได้แจ้งไปที่ รฟม.หรือไม่ ว่าไม่ได้รับเอกสารใด หรือทั้งหมด และแจ้งไปกี่ครั้ง? เมื่อใด?
4. รฟม.ได้ชี้แจงหรือแก้ไขหรือไม่? เมื่อใด
5. รฟม.จะกล้าแสดงเอกสารหลักฐานการโต้ตอบระหว่าง รฟม.กับผู้สังเกตการณ์หรือไม่ เพื่อทำให้สังคมเชื่อได้ว่าข้ออ้างของ รฟม.ตามที่ได้แถลงข่าวว่าส่งเอกสารบางรายการไปไม่ถึงผู้สังเกตการณ์ เนื่องจากอยู่ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ทำให้การสื่อสารกับผู้สังเกตการณ์คลาดเคลื่อนนั้นเป็นจริง
“หาก รฟม.ไม่สามารถแสดงเอกสารหลักฐานการโต้ตอบกับผู้สังเกตการณ์ได้ ความเคลือบแคลงสงสัยก็คงไม่จางหายไปจากพี่น้องประชาชนที่ติดตามการประมูลโครงการสำคัญนี้ได้ ซึ่งล้วนแล้วแต่มุ่งหวังที่จะให้รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว กรณีข้ออ้างของ รฟม.รับฟังไม่ขึ้น ผมขอเรียกร้องให้ ค.ป.ท.พิจารณารายงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามอำนาจหน้าที่ต่อไป” นายสามารถ ระบุ
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุด้วยว่า ข้อสงสัยดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นข้อกังขาที่ตนและประชาชนทุกคนชอบที่จะต้องขอคำชี้แจงให้สิ้นสงสัยจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ด้วยเจตนาที่จะให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการนี้อย่างเต็มที่ โดยปราศจากข้อสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้นเท่านั้น