สมบัติ 211 ล.!“ศรัณย์วุฒิ”ก่อนถูกขับ พท.-คอนเนคชั่นธุรกิจ“บิ๊กเหวียง”?

จากกรณีรายงานข่าวแจ้งว่า พรรคเพื่อไทย มีมติขับไล่ 2 ‘ส.ส.งูเห่า’ ได้แก่ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ และนางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี ออกจากพรรค เนื่องจากกระทำผิดวินัยของพรรคอย่างร้ายแรง ในการโหวตสวน ‘มติพรรคร่วมฝ่ายค้าน’ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมกับ 5 รัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2564 ที่ผ่านมานั้น

ในส่วนของนางพรพิมล ธรรมสาร กรุงเทพธุรกิจเคยนำเสนอข้อมูลบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินไปแล้วว่า มีทรัพย์สินราว 6.2 ล้านบาทเศษ ขณะที่นายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ คู่สมรส นายกเทศมนตรีเมืองสนั่นรักษ์ จ.ปทุมธานี มีทรัพย์สินกว่า 71 ล้านบาท รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 79.6 ล้านบาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 467,434 บาท

มาดูของนายศรัณย์วุฒิกันบ้าง?

นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2562 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 211,856,248 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 3,030,404 บาท

หากเทียบกับก่อนหน้านี้ กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2557 แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 290,066,714 บาท ไม่มีหนี้สิน

นายศรัณย์วุฒิ มีบุตร 2 ราย โดยรายหนึ่งคือ น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ อดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ (ปัจจุบันถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี กรณีถูกยุบพรรค)

แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า นายศรัณย์วุฒิ เคยเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัท ฟูจิเอเซีย จำกัด ของคนสกุล ‘ศรัณย์เกตุ’ ที่มี พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หรือ ‘บิ๊กเหวียง’ อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ‘บิ๊กทหาร’ มากบารมี และอดีตรัฐมนตรีช่วงรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เป็นกรรมการบริษัทแห่งนี้ด้วย?

นายศรัณย์วุฒิ แจ้งในบัญชีทรัพย์สิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2554 สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ระบุว่า เคยเป็นที่ปรึกษาบริษัท ฟูจิเอเซีย จำกัด ต่อมาช่วงพ้นตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2556 แจ้งว่ามีเงินให้กู้ยืมบริษัท ฟูจิเอเชีย จำกัด 40 ล้านบาท ช่วงเดือน ม.ค. 2556

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2564 พบว่า พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ยังคงเป็นกรรมการบริษัท ฟูจิเอเซีย จำกัด อยู่

บริษัท ฟูจิเอเซีย จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2549 ทุนปัจจุบัน 440 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 234 หมู่ที่ 3 ถนนบางนา-ตราด ต.คลองตำหรุ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด รับต่อตัวถังทุกชนิด ผลิต ซ่อมแซม บำรุงรักษาอุปกรณ์ช่วงล่างของรถทุกชนิด

ปรากฏชื่อ นายประชา ศรีรัตนธรรม นางโสภา ศรัณย์เกตุ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร นายปวิตร เตียวปิติ นายเดโชชัย ศรัณย์เกตุ เป็นกรรมการ

นำส่งงบการเงินล่าสุดถึงแค่ปี 2556 มีรายได้รวม 392,028,675 บาท รายจ่ายรวม 350,965,904 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 37,697,626 บาท กำไรสุทธิ 3,365,144 บาท

ความเกี่ยวพันของบริษัท ฟูจิเอเซีย จำกัด กับ 2 พ่อ-ลูก ‘ศรัณย์เกตุ’ คือ 

1.นายศรัณย์วุฒิ ก่อนปี 2554 เคยเป็นที่ปรึกษาบริษัทแห่งนี้ ต่อมาเมื่อ ม.ค. 2556 ให้เงินกู้ยืมแก่บริษัทแห่งนี้ 40 ล้านบาท

2.น.ส.จารุวรรณ เคยเป็นผู้ค้ำประกันการขอสินเชื่อของบริษัท ฟูจิเอเซีย จำกัด กับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย รวมวงเงิน 913,137,802 บาท โดยศาลจังหวัดชลบุรีมีคำพิพากษาให้จำเลยคดีนี้ทั้งหมดชดใช้เงินไปแล้วตั้งแต่ปี 2561 และอยู่ระหว่างประนอมหนี้ (เฉพาะยอดหนี้ของ น.ส.จารุวรรณ จำนวน 235,612,365 บาท ปรากฏในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ น.ส.จารุวรรณ ที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2562)

จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างสกุล ‘ศรัณย์เกตุ’ กับบริษัท ฟูจิเอเซีย จำกัด ซึ่งมี พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เป็นหนึ่งในกรรมการบริษัทแห่งนี้?

เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่มีการให้กู้ยืมเงินถึง 40 ล้านบาท หรือแม้แต่ น.ส.จารุวรรณ ต้องไปค้ำประกันเงินกู้รวมเฉียดพันล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2564 พบว่า นายศรัณย์วุฒิ ปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัทในเครือ ‘ฟูจิกรุ๊ป’ ของคนสกุล ‘ศรัณย์เกตุ’ อีกอย่างน้อย 2 แห่ง ได้แก่

1.บริษัท ฟูจิ โกลด์แอสเซท จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2560 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 11/1 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 15 หนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ปรากฎชื่อนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ เป็นกรรมการรายเดียว

ปัจจุบันยังมิได้นำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

2.บริษัท ฟูจิ เอนเนอร์จี อินโนเวชั่น จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2556 ทุนปัจจุบัน 100 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 141 อาคารนวัตกรรม 2 ชั้น 7 ห้อง 721-723 หมู่ 9 ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานสำหรับพลังงานหมุนเวียนและประยุกต์ในงานอื่น

ปรากฏชื่อ นายพงษ์ศักดิ์ อุทาวงศ์ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ เป็นกรรมการ

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2562 มีรายได้รวม 14,108,460 บาท รายจ่ายรวม 11,133,002 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 1,589,475 บาท กำไรสุทธิ 1,385,982 บาท 

นอกจากนี้ยังเคยปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัทอีกอย่างน้อย 8 แห่ง โดย 4 แห่งเป็นเครือ ‘ฟูจิกรุ๊ป’ แต่ปัจจุบันนายศรัณย์วุฒิ มิได้เป็นกรรมการบริษัทเหล่านี้แล้ว ได้แก่

1.บริษัท ออล ออร์แกนนิค อินโนเวชั่น จำกัด ทำธุรกิจวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปสมุนไพร 

2.บริษัท ฟูจิ โกลด์ พรอปเพอร์ตี้ จำกัด ทำธุรกิจทำนา ทำสวน ทำไร่ ทำนาเกลือ

3.บริษัท ฟูจิ ไลท์ติ้ง แอนด์ อินโนเวชั่น จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท กรีน เอนเนอร์จี อินโนเวชั่น จำกัด) ทำธุรกิจพัฒนา และจัดสรรที่ดินพร้อมอาคาร

4.บริษัท ฟูจิ อินโนเวชั่น กรุ๊ป จำกัด ทำธุรกิจ ผลิตหลอดไฟแอลอีดี หลอดไฟอินตั๊ดชั่น แผงโซล่าร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด

5.บริษัท ฟูจิ เทคโนโลยี แอนด์ อินโนเวชั่น จำกัด ทำธุรกิจการขายส่งอุปกรณ์สำหรับให้แสงสว่าง

6.บริษัท ปุ๋ยนำเกษตรรุ่งเรือง จำกัด ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์

7.บริษัท บี เบต้า เนเชอรัล จำกัด ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางประเภทต่างๆรวมทั้งแป้งฝุ่น แป้งหอม

8.บริษัท อูวา ซอฟท์ จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เอไอ โซลูชั่น อินโนเวชั่น จำกัด) ทำธุรกิจจำหน่าย ผลิต ขายปลีกส่ง นำเข้าส่งออก สินค้าอุปกรณ์ไอที คอมพิวเตอร์ทุกชนิด

นอกจากนี้นายศรัณย์วุฒิ ยังเคยแจ้งถือครองหุ้นบริษัท ขุมทรัพย์แผ่นดินทอง จำกัด จำนวน 8.4 แสนหุ้น ในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2557

บริษัท ขุมทรัพย์แผ่นดินทอง จำกัด ทำธุรกิจเหมืองสินแร่โลหะนอกกลุ่มสินแร่เหล็กอื่น ๆ ซึ่งมิได้จัด ประเภทไว้ในที่อื่น ปรากฏชื่อ นายประเทือง วิจารณ์ปรีชา นายวิชัย นิยมศิริวนิช นายประสาร สุดเรืองเลิศ นายปรีชา ศรัณย์เกตุ น.ส.สุนันท์ ศรัณย์เกตุ น.ส.อัมพร เขียวใส นายปรีดา ศรัณย์เกตุ นายวิเชียร เจียกเจิม พล.ท.พบสุข สุธรานันท์ (อดีต ส.ว. เมื่อปี 2535) และนายสำเนา จุลกะรัตน์ เป็นกรรมการ

ปัจจุบันบริษัทแห่งนี้ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่าร้าง

ทั้งหมดคือข้อมูลทรัพย์สิน-ฐานทุนของ ‘ศรัณย์วุฒิ’ ก่อนถูกขับพ้นจากพรรคเพื่อไทย ว่ากันว่าเจ้าตัวเตรียมหอบผ้าหอบผ่อนย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งสมัยหน้า?

จริงหรือไม่ ต้องติดตามกัน!