แกนนำ“เพื่อไทย”เดือด! จี้หาคนรับผิดชอบสภาล่มโหวต กม.ปฏิรูปการศึกษาไม่ได้
2 แกนนำ “เพื่อไทย” เดือด! “ชลน่าน” ชี้ “สภาล่ม” ทำโหวตกฎหมายปฏิรูปการศึกษาไม่ได้ ใครต้องรับผิดชอบ “อนุสรณ์” ลั่นปัญหาองค์ประชุมทำล่มซ้ำสองในรอบสัปดาห์ ทำประชาชนเสียโอกาส
เมื่อวันที่ 18ก.ย. 2564 น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2564 ที่ประชุมรัฐสภา พิจารณาร่าง พ.ร.บ การศึกษาแห่งชาติฯ เป็นกฎหมายปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา แต่สุดท้ายที่ประชุมสภาล่ม เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ว่า พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฯดังกล่าว นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (ประธาน กรธ.) ออกแบบไว้ให้พิจารณาในที่ประชุมร่วมรัฐสภา องค์ประชุม ส.ว รวมกับ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล มีเสียงข้างมากเด็ดขาด อย่างไร สภาก็ไม่ล่ม กฎหมายฉบับนี้ สมาชิกรัฐสภาให้ความสนใจมาก มีผู้อภิปราย ร่วม 60 คน ใช้เวลา ร่วม 8 ชั่วโมง ปิดการอภิปรายสัญญาณอันตราย ไม่ได้โหวตเริ่มเกิดขึ้น เมื่อวิปรัฐบาลขอหารือประธานว่าจะขอเลื่อนไปโหวตในสมัยประชุมหน้า วิปวุฒิสภา อ้างว่า มีกฎหมายปฏิรูปเสนอมาร่วมกัน 2 ฉบับ ร่าง พ.ร.บ การศึกษาแห่งชาติ และร่าง พ.ร.บ ส่งเสริมการเรียนรู้ ปฏิรูป กศน. ควรเลื่อนพิจารณาไปด้วยกัน
“ฝ่ายค้านเห็นว่าไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะไม่โหวตในวันนี้ เพราะการอภิปรายจบแล้ว ปิดการอภิปรายไปแล้ว จึงยืนยันว่าต้องโหวต ประธานจำเป็นต้องดำเนินการต่อตามข้อบังคับ เข้าสู่การลงมติในวาระรับหลักการ กดออด เรียกสมาชิกเข้าห้องประชุม เพื่อตรวจสอบองค์ประชุม รอแล้วรออีก ก็ยังไม่ครบ จนมีผู้เสนอให้พักการประชุม 30 นาที ท่ามกลางโห่ ครางแบบเบา ๆ ประธานจึงเฉย ไม่รับญัตติ สุดท้าย ประธานไม่รอ ไม่ประกาศผลตรวจสอบองค์ประชุมเพราะถ้าประกาศผลองค์ประชุมไม่ครบ ต้องสั่งปิดการประชุม จึงขอให้สมาชิกลุกขึ้นยืน เพื่อรับฟังท่านเลขาฯ อ่านพระบรมราชโองการฯ ปิดสมัยประชุม” นพ.ชลน่าน ระบุ
อ่านข่าว : 'ศรีสุวรรณ' เตรียมร้อง 'ป.ป.ช.' สอบ 277 ส.ส.โดดประชุมทำสภาล่ม
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า การจำใจต้องปิดประชุมไป โดยไม่ได้แจ้งผลการดำเนินงานของการประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งปกติก่อนรับฟังพระบรมราชโองการฯ ประธานจะแจ้งให้ทราบทุกครั้ง ว่าประชุมไปกี่ครั้ง กฎหมาย ผ่านไปกี่ฉบับ พิจารณาเรื่องสำคัญอะไรบ้าง จึงเป็นการปิดสมัยประชุมที่ขาด ๆ เกิน ไม่ราบรื่นนัก ทำไมสภาถึงล่ม แม้เป็นการประชุมร่วมรัฐสภา หรือเป็นสัญญาณที่บ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไปต่อไม่ได้จริง ๆ จนมุมในสภา ไม่เฉพาะในที่ประชุมไม่ไว้วางใจสภาผู้แทนฯ ลามถึงรัฐสภา "เกมส์การต่อรองแห่งอำนาจ" ส่อวิกฤตทางการเมืองจริง ๆ
“ประยุทธ์อยู่ได้ คงต้องใช้กล้วยหมดเป็นสวน ๆ สุดท้ายก็ต้องยอม เกมส์โหดขี่คอกินตลอด !! ไปไม่รอด ต้องยุบสภา ไม่รู้ว่าใครเหนือกว่าใคร !!ใครได้ใครเสีย !! ที่แน่ๆ ผู้แพ้คือประเทศชาติและประชาชน ย่อยยับอับปรางค์ "ผนงรจตกม" ผู้นำโง่เขลาเราจะตายกันหมดจริง !! ขอร้อง..ออกไปเถอะ !! ก่อนที่จะเสียหายมากไปกว่านี้ !!!” นพ.ชลน่าน ระบุ
วันเดียวกัน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ปัญหาองค์ประชุมรัฐสภาล่มอีกครั้ง แม้ในวันปิดสมัยประชุมสภา ว่า องค์ประชุมรัฐสภาล่มซ้ำสองในรอบสัปดาห์ ทำร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติชะงัก ทั้งที่เป็นธรรมนูญการศึกษาที่มีความสำคัญ และเป็นร่างกฎหมายปฏิรูปสำคัญของรัฐบาล หากต้องเลื่อนออกไปอีก 2 เดือน ถือว่ารัฐสภาไม่มีความรับผิดชอบ ทำประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาส ไม่แน่ใจว่าปัญหาองค์ประชุมรัฐสภาล่มซ้ำสองในรอบสัปดาห์ เป็นอาฟเตอร์ช็อกมาจากความขัดแย้งภายในรัฐบาลหลังศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือไม่ ยิ่งหากความขัดแย้งของพรรคแกนหลักรัฐบาลไม่ได้รับการแก้ไข หรือปัญหายังไม่มีทีท่าจะยุติลง จะส่งผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาเป็นอาฟเตอร์ช็อกอีกหลายระลอก
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาเสถียรภาพรัฐบาลวิกฤตสั่นคลอนกำลังลามออกมากระทบกับประชาชนอย่างไม่เป็นธรรม การที่รัฐบาลเทไม่โหวต ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ สะท้อนว่ารัฐบาลยังแก้ปัญหาของตัวเองไม่ตก ประชาชนอยากได้คำตอบว่า ส.ส.ส.ว.คนใดโดดประชุมรัฐสภาจนทำให้องค์ประชุมรัฐสภาล่มเป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลหลายคนไม่อยู่แสดงตนเป็นองค์ประชุม ทั้ง ๆ ที่เป็นกฎหมายสำคัญที่รัฐบาลเสนอเข้ามาเอง แทนที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะมาแสดงตนเป็นองค์ประชุมรัฐสภา แต่ปรากฏว่าทั้งรัฐมนตรีทั้งส.ส.พรรคพลังประชารัฐกลับไปตบเท้าแห่รับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ชลบุรี จัดลำดับความสำคัญของปัญหาผิดจนต้องเลื่อนไปโหวตในสมัยหน้า ซึ่งต้องเสียเวลาของประเทศไป 2 เดือน สะท้อนว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาเลย
“ถึงเวลาที่ทุกฝ่ายต้องทบทวนบทบาทหน้าที่ของตัวเอง การที่วุฒิสภา ได้ฉายาว่า สภาปรสิต ห่างไกลจากความเป็นจริงหรือไม่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลแก้ปัญหาของตัวเองก่อนปัญหาของประชาชนหรือไม่ จะปรับปรุงแก้ไขเพื่อยกระดับการทำงานอย่างไร ถ้าไม่อยากทำหน้าที่ก็ลาออกไป” นายอนุสรณ์ กล่าว