เลือกคนดีมีค่ากว่าเงิน 500-1,000 บาท! โฆษก ปชป.ต้านซื้อเสียง-ระวังติดคุก
“ราเมศ” ย้ำ ปชช. ต้านคนซื้อเสียง เลือกคนดี คนทุ่มเททำงาน มีค่ามากกว่าเงิน 500 -1,000 บาท ระวังติดคุกทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย พรรคเดินหน้า ผสาน 3 กลไก พรรค สภา รัฐบาล เชื่อม “ปชช.-พรรค” เป้าหมายแก้ปัญหายั่งยืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2564 ในการจัดกิจกรรมสัมมนาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ภายใต้หัวข้อ "การมีส่วนร่วมทางการเมือง ของประชาชนในการพัฒนาการเมือง" ที่ พงศกร บูทิก รีสอร์ท เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา ได้เป็นประธานเปิดงานสัมมนา พร้อมบรรยายหัวข้อ “หน้าที่ของพรรคการเมืองในการแก้ปัญหาให้กับประชาชน” โดยในตอนหนึ่งของการสัมมนา ได้กล่าวว่า ในฐานะทำหน้าที่ในพรรคการเมือง เป็นโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ การทำงานภายใต้แนวนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคว่า หลักคิดของพรรคที่สำคัญคือยึดมั่นในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทุกช่วงเวลาของพรรคมุ่งหน้าทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง
นายราเมศ กล่าวว่า ขณะนี้รูปแบบการทำงานด้วยการเชื่อมโยงผสมผสาน 3 กลไก ระหว่างพรรค รัฐสภา รัฐบาล ถือว่าประสบความสำเร็จที่ปัญหาของพี่น้องประชาชนได้รับการแก้ไขมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การเชื่อมโยงประชาชน เชื่อมโยงพรรค และเชื่อมโยงสมาชิก โดยได้ยกตัวอย่าง โครงการจุรินทร์ ออนทัวร์ ที่นายจุรินทร์ได้เดินทางไปพบพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ในเดือนนี้ช่วงปิดสมัยประชุมสภา จะเดินทางไปพบประชาชน อีก 20 จังหวัด โครงการฟังไทย ที่มุ่งรับฟังทุกเสียงของประชาชน โครงการประชาธิปัตย์สัญจร ที่ตนได้ลงพื้นที่มาแล้วกว่า 50 พื้นที่ ในหลายจังหวัด โดยนำเอาปัญหาของประชาชนเป็นที่ตั้ง ผ่านการประสานงานของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นทั้งอดีตผู้สมัคร, อดีต ส.ส., สาขาพรรค และตัวแทนจังหวัด
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อชาวบ้านมีปัญหา มีความทุกข์ เราต้องใช้ความจริงใจ ในการแก้ปัญหาพร้อมยืนเคียงข้าง เมื่อปัญหาของชาวบ้านได้รับการแก้ไข นั่นคือความสุขที่นักการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ต้องการในฐานะที่เป็นสถาบันทางการเมือง แกนนำ ตัวแทน สาขา และสมาชิกพรรคจึงเป็นกลไกสำคัญในการที่จะร่วมนำเสนอปัญหาต่างๆเพื่อให้พรรค ให้สภาผู้แทนราษฏร และรัฐบาลร่วมในการขับเคลื่อนแก้ปัญหาให้กับประชาชน
นายราเมศ ยังกล่าวถึงการให้ความสำคัญในการต่อต้านการซื้อสิทธิขายเสียงว่า ขอให้ประชาชนได้เลือกคนดี คนที่ทุ่มเททำงานให้ประชาชนจะมีค่ามากกว่าถ้าได้คนเหล่านี้ไปทำงาน หากซื้อเสียงแล้วก็จะเห็นว่าผู้แทนเหล่านั้นย่อมไม่ให้ความสำคัญกับประชาชน และไม่มีวันที่คนเหล่านั้นเมื่อลงทุนไปแล้วจะไม่ถอนทุนคืน คือไปทุจริต คิดคดโกงงบประมาณ เพื่อหาเงินมาซื้อเสียงอีก เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งก็เอาเงินมาให้เขาก็ถือว่าจบกัน เงิน 500 บาท 1,000 บาท ไม่สามารถเทียบได้กับการที่เลือกคนดี มาตั้งใจทำงานให้กับประชาชนย่อมมีค่ามากกว่าเงินที่ซื้อเสียง ที่สำคัญประชาชนต้องทราบว่า ทั้งผู้ซื้อเสียงและผู้ขายเสียงมีความผิดติดคุก หากเราต้องการการเมืองที่สุจริตต้องช่วยกันเพื่อความย้่งยืนในระบบประชาธิปไตยในอนาคต
ทั้งนี้ในการสัมมนาดังกล่าว มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคประชาธิปัตย์ นางสาวมารีญา ฤกษ์ดี เข้าร่วมด้วย