สมบัติ 2 อธิบดี! “เอกนิติ” สรรพากร 115 ล้าน - “ยุทธนา” ธนารักษ์ 36 ล้าน
ส่องสมบัติ 2 อธิบดีนั่งเก้าอี้ครบ 3 ปี “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” สรรพากร ทรัพย์สินรวม 115 ล้าน ได้มรดกบิดา 3 ล้าน-คุณตา 8 แสน ค่าตอบแทนนั่งบอรด์ดปีละ 10 ล้าน – “ยุทธนา” ธนารักษ์ มี 36 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงหลายราย รายชื่อน่าสนใจ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ กรณีดำรงตำแหน่งครบ 3 ปี (ระหว่างนั่งประธานบอร์ดธนาคารกรุงไทย-อธิบดีกรมสรรพากร)
(นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)
นายเอกนิติ แจ้งมีทรัพย์สิน มีทรัพย์สิน 94,238,882 บาท ได้แก่ เงินฝาก 15,506,800 บาท เงินลงทุน 52,062,585 บาท ที่ดิน 16,039,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 7,580,496 บาท ยานพาหนะ 2.1 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 9.5 แสนบาท มีหนี้สิน 2,218,671 บาท มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 23,072,724 บาท (จำนวนนี้ได้รับมรดกจากบิดา 3 ล้านบาท มรดกจากคุณตา 8 แสนบาท ส่วนค่าตอบแทนกรรมการรวม 10 ล้านบาทเศษ) มีรายจ่ายรวม 12,220,000 บาท
นางร้อยแก้ว นิติทัณฑ์ประภาศ คู่สมรส มีทรัพย์สิน 20,949,787 บาท ได้แก่ เงินฝาก 3,465,171 บาท เงินลงทุน 835,696 บาท ที่ดิน 6,695,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 7,309,920 บาท ยานพาหนะ 1.4 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น 1,244,000 บาท มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 3,484,107 บาท มีรายจ่ายรวม 4,499,000 บาท
รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 115,188,670 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 2,218,671 บาท
สำหรับนายเอกนิติ ก่อนหน้านี้ระหว่างปี 2558-2561 เป็น ผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ปี 2561-2562 เป็นประธานกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ปี 2561-2563 เป็นประธานกรรมการธนาคารกรุงไทย และปี 2561-ปัจจุบัน เป็นอธิบดีกรมสรรพากร ส่วนนางร้อยแก้ว ปัจจุบันเป็น Senior External Relations Officer พนักงานองค์กรระหว่าปงระเทศ Asian Development Bank (ธนาคารพัฒนาเอเชีย)
อีกรายที่น่าสนใจ นายยุทธนา หยิมการุณ กรณีดำรงตำแหน่งครบ 3 ปี (ระหว่างเป็นกรรมการยาสูบแห่งประเทศไทย-อธิบดีกรมธนารักษ์) แจ้งสถานะว่าหย่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2555
(นายยุทธนา หยิมการุณ)
โดยนายยุทธนา มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 36,161,571 บาท ได้แก่ เงินฝาก 489,571 บาท เงินลงทุน (ในสหกรณ์ออมทรัพย์) 157,000 บาท ที่ดิน 18,182,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 7,688,000 บาท ยานพาหนะ 4.8 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 4,746,250 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 1,200,976 บาท มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 18,020,608 บาท (จำนวนนี้เกิดจากการขายรถยนต์ 1 คัน 1.2 ล้านบาท ขายที่ดิน 2 แปลง 11 ล้านบาท รวมถึงการทำไร่ 5 แสนบาท เป็นต้น) มีรายจ่ายรวม 3,679,000 บาท
ก่อนหน้านี้ระหว่างปี 2558-2561 นายยุทธนา เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ปี 2561-2562 เป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง และปี 2562-2564 ขึ้นเป็นอธิบดีกรมธนารักษ์
