"เรืองไกร" เตรียมยื่น "กกต." สอบ คลิป "ทักษิณ" ครอบงำ "เพื่อไทย"

"เรืองไกร" เตรียมยื่น "กกต." สอบ คลิป "ทักษิณ" ครอบงำ "เพื่อไทย"

"เรืองไกร" ชี้ คลิป "ทักษิณ" ร่วมงานเลี้ยง มี กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ร่วมด้วย เข้าข่ายปล่อยคนนอกครอบงำ ส่อขัด พ.ร.ป.พรรคการเมือง

          นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานและข้อเท็จจริงเพื่อร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.​) ในประเด็นที่นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี มีพฤติกรรมเข้าข่ายขัดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคเพื่อไทย  เนื่องจากนายทักษิณ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพราะไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้ต้องโทษหนีคดี จากกรณีที่มีคลิปภาพนายทักษิณปรากฎและภายในงานยังมีกรรมการบริหารพรรค นำโดย นายสมพงษ์​ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นต้น ร่วมอยู่ด้วย  แม้นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าและแกนนำภาคอีสานของพรรคเพื่อไทย จะระบุว่าเป็นงาเลี้ยงสังสรรค์ ไม่ใช่การประชุม แต่ภาพที่ปรากฎนั้นมีความชัดเจนอย่างยิ่ง

 

          "คลิปที่สื่อมวลชนเผยแพร่ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม นั้นก่อนหน้านั้นมีการเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดียมาก่อนหน้านั้นแล้ว เดิมคิดว่าไม่มีอะไร แต่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่พบว่าพรรคเพื่อไทยได้นำสโลแกนใหม่ ที่ว่า พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน และติดเป็นคำโฆษณาบนรถตุ๊กตุ๊กๆ และเตรียมเปิดตัวในการเลือกตั้ง อบต. ทำให้เป็นภาพชัดเจน ซึ่งชัดเจนมากกว่าครั้งที่ยุบพรรคไทยรักษาชาติ หรือ พรรคพลังประชาชน" นายเรืองไกร กล่าว

          เมื่อถามว่าคำพูดที่ระบุว่ามีแนวทางที่พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ คือประจักษ์พยานที่เข้าข่ายครอบงำ ควบคุมหรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองหรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า  กรณีที่นายทักษิณ บอกว่าหากจะเป็นรัฐบาลได้ต้องชนะแบบแลนด์สไลด์ ตนมองว่าเขาตั้งเป้าให้ได้ส.ส.มากกว่า 377 ที่นั่ง ถึง 400 เสียง เพราะการเลือกนายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง ยังต้องใช้รัฐสภาและให้ส.ว.250 คนร่วมลงมติ อย่างไรก็ดีตนมองว่าคำพูดดังกล่าวคงไม่ใช่การครอบงำ แต่คงอยากกระตุ้น ส.ส. และต้องการเป็นรัฐบาลพรรคเดียว เหมือนสมัยยุคเลือกตั้งทักษิณ 2 ที่สามารถได้ส.ส.เข้าสภา 377 ที่นั่ง เป็นพรรคเดียวคุมเบ็ดเสร็จ  หรือ ต้องการฮาย รีเทิร์น (High Return)

 

          “ผมขอรวบรวมหลักฐานและรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง จากนั้นประมาณวันอังคารหน้า จะเข้ายื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้พิจารณา อย่างไรก็ดีนอกจากมุมการทำผิดตาม พ.ร.ป.พรรคการเมืองแล้ว อาจเข้าข่ายกระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ด้วย เพราะ ส.ส.คือ เจ้าพนักงานตามกฎหมายและต้องปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจที่ไม่ขัดกับกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ” นายเรืองไกร กล่าว

          เมื่อถามว่าการยื่นเอาผิดครั้งนี้ หากถูกตัดสินโทษจะเป็นอย่างไร นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณีของนายทักษิณ คงจะกล่าวโทษไม่ได้ เพราะอยู่ต่างประเทศ แต่สามารถร้องกรรมการบริหารพรรค และ พรรคเพื่อไทยได้ การพิจารณาบทลงโทษคือตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค และ ยุบพรรค ซึ่งหากการยุบพรรคในช่วงที่ใกล้จะเลือกตั้งนั้น คนของพรรคเพื่อไทยต้องไปจดจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ และไม่ใช้ชื่อพรรคที่ถูกยุบ ซึ่งอาจจะได้เห็นปรากฎการณ์ผึ้งแตกรังอีกครั้ง เหมือนที่ก่อนหน้านี้ คุณหญิงสุดารัตน์​ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย, นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย หรือกรณีนางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ หัวหน้าพรรคเสมอภาค ที่ลาออกจากพรรคเพื่อไทย

 


          นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 19 ตุลาคม ตนเตรียมเข้าให้ปากคำต่อ กกต. และพร้อมกับยื่นเรื่องให้ กกต. ตรวจสอบพรรคเพื่อไทย ที่มีมติขับ 2 ส.ส. พ้นจากสมาชิกพรรค กรณีการไม่ลงมติในสภาฯ ที่เป็นไปตามมติพรรค ว่าเข้าข่ายละเมิดรัฐธรรมนูญ กรณีที่ ส.ส.มีเอกสิทธิ์และอิสระในการลงมติหรือไม่.