"ตร." ขยายผลสอบพบนักการเมืองดัง "แปดริ้ว" เอี่ยวลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อน
"ศปนม.ตร." ขยายผลสอบเชิงลึก หลังจับกุมขบวนการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อน 4 แสนลิตร ทางทะเล จากกัมพูชา มาจำหน่ายในพื้นที่บางน้ำเปรี้ยว พบ นักการเมืองดัง “แปดริ้ว” เอี่ยว นายตำรวจระดับสารวัตร ร่วมขบวนการด้วย
จากกรณีที่ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปนม.ตร.) และกองบังคับการตำรวจน้ำ ทำการจับกุมเรือ “เทคซ่า” กลางทะเลอ่าวไทย บริเวณใกล้เกาะสีชัง จ.ชลบุรี พร้อมตรวจยึดน้ำมันดีเซลประมาณ 4 แสนลิตร ที่ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมานั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2564 มีความคืบหน้าจากชุดสืบสวนสอบสวนแจ้งว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาได้ยอมรับว่า ไปรับน้ำมันมาจากประเทศกัมพูชา โดยเป็นน้ำมันดีเซลซึ่งมีค่าสารมาร์คเกอร์ 27 หน่วย ที่มีความเข้มข้นสำหรับเติมน้ำมันส่งออกไปต่างประเทศ และได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิต เมื่อนำออกไปแล้วจะไม่สามารถนำกลับเข้ามาในราชอาณาจักรได้อีก หากนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ถือเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 242 ข้อหา ผู้ใดนำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีศุลกากร ต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับและให้ริบของนั้นไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ และมีความผิดตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 204 (1) ข้อหา มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่ไม่เสียภาษีเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับเป็นเงิน 5-15 เท่าของภาษีต้องเสียหรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 242 ถือเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
ในส่วนของการสืบสวนขยายผลเชิงลึกพบว่า ขบวนการลักลอบนำน้ำมันเถื่อนเข้ามาจำหน่ายในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายที่จับกุมได้ครั้งนี้ มีนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังใน จ.ฉะเชิงเทรา อยู่เบื้องหลัง โดยมีน้องชายของนักการเมืองคนดังกล่าว ที่ขณะนี้ทราบว่าได้หลบหนีไปแล้วเป็นผู้ดำเนินการ มีแหล่งลักลอบจำหน่ายที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีนายตำรวจระดับสารวัตรใน จ.ฉะเชิงเทรา รายหนึ่งร่วมขบวนการด้วย