สั่งฟ้อง "ผกก.โจ้" พร้อมพวก 4 ข้อหา อายัดทรัพย์ 131 ล้าน
ผบ.ตร. แถลง ผลคืบหน้า คดีผกก.โจ้ ส่งสำนวนฟ้อง 4 ข้อหา “ฐานร่วม กันละเว้น - ใช้อำนาจโดยมิชอบ - ร่วมกันกักขัง - ฆ่า ” แก๊งปราบปรามยาเสพติด นครสวรรค์ ส่วนคดีรถหรู คืบหน้า 80% ทิ้งพิรุธเพียบ เหลือขยายผลสู่ธุรกิจอื่น พร้อมประสาน ปปง. อายัดทรัพย์ 131 ล้าน
ความคืบหน้าคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรตำรวจนครสวรรค์ หรือ อดีต ผกก.โจ้ พร้อมพวกในแก๊งตำรวจ ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองจ.นครสวรรค์ ก่อเหตุใช้ถุงดำคลุมศีรษะ นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ หรือมาวิน ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต โดยอ้างเป็นการกระทำเพื่อเค้นข้อมูลสืบสวนแต่พลั้งมือ เหตุเกิดที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อ 5 สิงหาคม 2564
ล่าสุด 2 พ.ย. 2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พร้อมด้วยพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. แถลงความคืบหน้าว่า คดีนี้ตำรวจสรุปสำนวน และจะส่งสำนวนสั่งฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และพวกรวม 7 คน ส่งสำนวนให้อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ในช่วงบ่ายวันที่ 3 พ.ย.64 นี้
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า คดีนี้ มี น.ส.จันทร์จิรา ธนะพัฒน์ แม่ของนายมาวิน และ พ.ต.อ. สุทธินันท์ คงแช่มดี พนักงานสอบสวน เป็นผู้กล่าวหา มีผู้ต้องหา 7 คน ประกอบด้วย 1.พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล 2. พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง 3. ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค 4. ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา 5. ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว 6. ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น 7. ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว คดีนี้ สอบสวนพยาน 35 ปาก พยานเอกสารจำนวน 14 รายการ วัตถุพยานจำนวน 7 รายการ
คณะพนักงานสอบสวนลงความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ฐานความผิด 1.เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต 2.เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต 3.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย 4.ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่นหรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า สำหรับคดีรถหรูของอดีตผกก.โจ้ ที่จับกุมเป็นรถเถื่อน ส่งศุลกากร จำนวนกว่า 400 คันนั้น สำนวนคดีมีคืบหน้า 80% แล้ว พบพิรุธทั้งการจับกุมรถที่ไม่มีที่มาที่ไป พิรุธเรื่องการรับสินบนนำจับ ขณะนี้กำลังขยายผล คดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องหลายคน ทั้งคนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของอดีตผกก.โจ้
ในคดีของพ.ต.อ.ธิติสรรค์ ตำรวจและปปง.ได้อายัดทรัพย์ของ อดีตผกก.โจ้ ที่สันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ทั้งคฤหาสน์ ย่านบางชัน มูลค่า 57 ล้านบาท รถ 24 คัน ประเมินราคา 70 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 1 ยูนิต 1.5 ล้านบาท ปืน 18 กระบอก 720,000 บาท รวม 131 ล้านบาท ขณะที่อดีตผกก.โจ้ มีหนี้สิน 76.63 ล้านบาท ทำให้เหลือทรัพย์สิน ประมาณ 53.4 ล้านบาท ส่วนจะมีการยึดอายัดทรัพย์สินหรือไม่ ต้องพิจารณาว่า เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนนี้ ยังต้องรอการตรวจสอบเอกสารร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งกรมศุลกากร กรมการขนส่งทางบก อีกระยะหนึ่ง แต่ยอมรับว่า ช่วงหลัง อดีตผู้กำกับโจ้ ที่ถูกคุมขังในเรือนจำ ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ ทำให้การตรวจสอบทรัพย์สิน ทำได้อย่างล่าช้า จึงต้องมีการหารือร่วมกับกรมราชทัณฑ์เพิ่มเติม
ด้าน ผบ.ตร.เผยถึงการพิจารณาลงโทษทางวินัยอดีตผกก.โจ้และพวก ว่า ในการพิจารณาโทษทางวินัยร้ายแรงว่าจะปลดออก หรือ ไล่ออก นั้นยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา