เรียก! "อัยการ-อดีตตำรวจพิสูจน์หลักฐาน" สอบเพิ่มคดี "บอส-อยู่วิทยา"
จเรตำรวจแห่งชาติ ประชุม ชุดสืบสวนข้อเท็จจริงคดี "บอส-อยู่วิทยา" เตรียมเรียก "อัยการ-อดีตตร.พิสูจน์หลักฐาน" สอบเพิ่มให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า
3 พ.ย. 2564 พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงแก้ไขความเร็วรถยนต์ คดีวรยุทธ อยู่วิทยา โดยมีรายงานว่าการประชุมวันนี้เป็นการเร่งรัดติดตามในประเด็นสืบเนื่องจากที่คณะกรรมการได้มีมติไปในการประชุมครั้งก่อนเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยในที่ประชุมมีการติดตามความคืบหน้าขอสอบปากคำ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเชิญอัยการที่อยู่ในเหตุการณ์ การเปลี่ยนความเร็วรถ และการเชิญทนายความที่พา นักวิชาการไปพบกับผู้เชี่ยวชาญ ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานมาให้ปากคำ
โดยมีรายงานในที่ประชุมว่า อดีตผบ.ตร.ได้ส่งคำให้การเป็นเอกสารมายังคณะกรรมการแล้ว ยืนยันว่า ในวันที่ 26-28 ก.พ.2559 นั้น ตนได้เดินทางไปประชุมคณะกรรมการฟุตบอลโลกที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และกลับมาประเทศไทยในเช้าวันที่ 28 ก.พ.59 และในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 29 ก.พ.59 ช่วงเช้า ได้เดินทางไปพบกับ อดีตรองผบ.ตร.ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน เนื่องจากมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันมานาน และยอมรับว่าได้อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่นักวิชาการท่านหนึ่งพบกับผู้เชี่ยวชาญด้านความเร็ว ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ประมาณเกือบ 30 นาที แต่ไม่ได้กดดัน บังคับ หรือชักจูง ให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงความเร็วรถของนายวรยุทธ ต่อพนักงานสอบสวนในการสอบสวนเพิ่มเติมตามคำสั่งของพนักงานอัยการแต่อย่างใด
รายงานข่าวระบุอีกว่า นอกจากนี้ยังยอมรับว่าเสียงในคลิปที่ใช้เป็นหลักฐานในกรณีนั้นเป็นเสียงของตนจริง โดยอดีตผบ.ตร.ให้การโดยพยายามชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถดังกล่าว ไม่มีใครจะบังคับได้ หากเจ้าตัวไม่ยินยอม และผู้ที่จะได้ประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถนั้น ก็คือฝ่ายทนายความของผู้ต้องหา ซึ่งคณะกรรมการได้มีการถกกันในประเด็นนี้อย่างกว้างขวาง
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้ยังมีการรายงานต่อคณะกรรมการว่า มีอัยการท่านหนึ่ง ซึ่งมีข้อมูลพาดพิงว่าอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยนั้น ไม่ได้มาให้ปากคำตามที่มีหนังสือเชิญไป โดยอ้างว่าไม่ทราบว่าที่คณะกรรมการมีเชิญไปให้ปากคำนั้น ตนเองไปเกี่ยวข้องอย่างไร นอกจากนี้ยังมีการให้ข้อมูลจากกรรมการบางส่วนเพิ่มเติมว่ามีหลักฐานบางส่วนเกี่ยวพันไปถึงอดีตตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่เคยร่วมทำคดีนี้
รายงานข่าวระบุว่า ในที่สุดคณะกรรมการได้ลงมติว่าในส่วนของอดีตผบ.ตร.นั้นได้ให้ข้อมูลมาเพียงพอแล้ว แต่ในส่วนของอัยการนั้น ต้องทำหนังสือเชิญมาให้ปากคำอีกครั้งหนึ่งหรือจะทำคำให้การเป็นหนังสือมาก็ได้ และจะต้องเชิญ อดีตตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานคนดังกล่าวมาให้ปากคำในบางประเด็นที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนด้วยโดยให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตามภายหลังการประชุม พล.ต.อ.วิสนุ เปิดเผยว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา โดยหากมีข้อมูลพาดพิงไปถึงใครก็จะต้องเชิญมาสอบทุกราย เพื่อให้ได้ความจริงและเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งจะพยายามดำเนินการให้เสร็จเร็วที่สุดตามกรอบเวลาที่ กฎ ก.ตร.กำหนด ขอให้มั่นใจในการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ และตนได้กำชับการทำงานของคณะกรรมการไปแล้วว่า ผลการสืบสวนจะต้องตอบสังคมได้อย่างมีเหตุมีผลในทุกประเด็น