"เรืองไกร" เตรียมยื่น "กกต." ยุบ "พรรคเพื่อไทย" ปมตั้ง "สุรพงษ์" เป็น ผอ.พรรค

"เรืองไกร" เตรียมยื่น "กกต." ยุบ "พรรคเพื่อไทย" ปมตั้ง "สุรพงษ์" เป็น ผอ.พรรค

"เรืองไกร" ชี้ นพ.สุรพงษ์​ขาดคุณสมบัติเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย-นั่ง ผอ.พรรคไม่ได้ เตรียมยื่น กกต. ตรวจสอบ ชี้การกระทำเข้าข่ายคนภายนอกครอบงำพรรค มีโทษยุบพรรค-เพิกถอนสิทธิ

        นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า วันที่ 8 พฤศจิกายน เวลา 10.00.น. ตนจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบกรณีที่พรรคเพื่อไทย ตั้ง นพ.สุรพงษ์​ สืบวงศ์ลี ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย ได้หรือไม่ เนื่องจากนพ.สุรพงษ์ เคยต้องคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีความผิดเกี่ยวกับหน้าที่ราชการ  2 คดี คือ คดีหมายเลขแดงที่ อม. 91/2559 วันที่ 4 สิงหาคม  2559 โดยศาลพิพากษาว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ให้จำคุก 1 ปี แต่รอการลงโทษไว้ 1 ปี และคดีหมายเลขแดงที่ อม. 107/2559 วันที่ 25 สิงหาคม 2559 โดยศาลพิพากษาว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ให้จำคุก 1 ปี

 

        นายเรืองไกรกล่าวด้วยว่า ขณะที่ข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ข้อ 12 บุคคลที่ห้ามสมัครเป็นสมาชิก เช่น (9) บุคคลที่เคยได้รับโทษจำคุกและพ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปี หรือ (12) เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ  เป็นต้น

 

         "นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี จึงน่าจะมีลักษณะต้องห้ามเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย หรือ ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย ดังนั้น การปรากฏตัวและปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายของนายสุรพงษ์ บนเวทีประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นกิจกรรมทางการเมือง จึงน่าจะมีปัญหาตามมาว่า มีการกระทำอันฝ่าฝืน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 และ มาตรา 29 หรือไม่ จากข้อเท็จจริงของนายสุรพงษ์ ในฐานะผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย  จึงมีเหตุต้องขอให้ กกต. ตรวจสอบ" นายเรืองไกร กล่าว

         นายเรืองไกร ยังกล่าวด้วยว่า การกระทำของนพ.สุรพงษ์ ทั้งการขึ้นเวทีปราศรัยในเวทีประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อไทย เมื่อ 28 ตุลาคม ถือเป็นกิจกรรมทางการเมือง ที่กรรมการบริหารพรรคชุดเก่า ที่มีนายสมพงษ์​ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เป็นอดีตหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่มี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ต้องพิจารณาตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย  ทั้งนี้การเผยแพร่บทความหรือเนื้อหาของนพ.สุรพงษ์​จึงมีปัญหาว่าจะเข้าข่ายขัดต่อ พ.ร.ป.พรรคการเมืองหรือไม่ หากนพ.สุรพงษ์ ไม่มีคุณสมบัติเป็นสมาชิกพรรคหรือผู้อำนวยการพรรค จะถือว่าฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมืองและเป็นเหตุแห่งการยุบพรรค รวมถึงกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดเก่าและชุดใหม่ต้องถูกเพิกถอนสิทธิ