"เอนก" นั่ง "หน.รวมพลังประชาชาติไทย" เตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งอีก1ปี
ไร้คู่แข่ง “เอนก” นั่งหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ตั้งเป้าหมายเป็นพรรคขนาดเล็กขนาดกลางอย่างมีคุณภาพ ยืนยันจะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เตรียมพรรคสู้ศึกเลือกตั้งอีก 1 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2563 โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค , นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในฐานะกรรมการบริหารพรรค พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค และสมาชิกพรรคเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง
โดยวาระในการประชุมใหญ่สามัญมีทั้งหมด 8 วาระ ประกอบด้วย รับรองรายงานการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปีที่ผ่านมา เห็นชอบรายงานการเงินประจำปี 2563 เลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้รับสมัครเลือกตั้ง เปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค และการย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่พรรค
สำหรับวาระการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคนั้น เนื่องจากมีการเสนอชื่อตำแหน่งละ 1 รายชื่อ จึงไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการลงคะแนนเสียง โดยรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ประกอบด้วย
นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าพรรค
ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขาธิการพรรค
นางสาวจุฑาทัศน์ เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ดำรงตำแหน่งเหรัญญิก
ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ นายทะเบียนพรรค
ดร.พัชรินรุจา จันทโรนสนนท์ กรรมการบริหารพรรค
น.ส.ยอดขวัญ ชุมวาระ กรรมการบริหารพรรค
นายพิรสุต จันทรานุวัฒน์ กรรมการบริหารพรรค
โดยนายเอนก กล่าวภายหลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ว่า ตนขอขอบคุณทุกคนที่เลือกตนให้เป็นหัวหน้าพรรค โดยยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เต็มกำลังความสามารถ จะให้ความสำคัญกับสมาชิกพรรค สาขาพรรค และจะเตรียมพรรคสู่การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นต่อจากนี้ประมาณ 1 ปี ที่ผ่านมาพรรครวมพลังประชาชาติไทยนั้นมีผลงานจำนวนมากจากการทำหน้าที่ทั้งในฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ แต่จะต้องแปรเปลี่ยนเอาผลงานเหล่านั้นมาเป็นคะแนนเสียงให้ได้
"เป้าหมายของเราคือการเป็นพรรคขนาดเล็กขนาดกลางอย่างมีคุณภาพ ซึ่งคุณภาพ ก็คือ การเป็นพรรคของประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชนให้มากที่สุด เพราะเราปกครองในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนจึงมีความสำคัญ เพราะประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ โดยในระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การเลือกตั้ง แต่ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย ดังนั้นประชาชนจะต้องมีความรู้" นายเอนก กล่าว.