"จุรินทร์" ปัดรธน.เอื้อพรรคการเมือง มั่นใจสัญญาณดี-ปชป.ส่งส.ส.เขตครบ400
"จุรินทร์" ปัดรธน.เอื้อพรรคการเมือง มั่นใจสัญญาณดี-พรรคประชาธิปัตย์เร่งเคาะผู้สมัคร ลั่นส่งผู้แทนครบ400คน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นรัฐธรรมนูญใหม่ และการปรับกลยุทธ์ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า เรื่องสูตรการคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อนั้นมีหลักที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญในภาพรวมอยู่แล้ว ซึ่งถ้าพรรคไหนได้คะแนน 100% ก็ได้ปาร์ตี้ลิสต์ไปร้อยคน ถ้าพรรคการเมืองไหนได้คะแนน
สำหรับบัตรใบที่ 2 60% ก็ได้ ส.ส. 60 คน หลักก็เป็นโดยประมาณอย่างนี้ ถ้าได้ 10% ก็ได้ผู้แทน 10 คน
ถ้าอย่างนี้จะเข้าใจได้ง่าย แต่วิธีการคำนวณตัวโน้นตัวนี้ไปหารมันก็ค่อนข้างซับซ้อน
พร้อมกับระบุว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่แก้ไข หรือฉบับใหม่นี้ก็ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ให้ความสำคัญกับพรรคการเมืองมากขึ้น เพราะว่าการเลือกตั้งโดยใช้บัตรใบเดียวนั้น ต้องเอาคนกับพรรคมามัดรวมกัน ประชาชนไม่สามารถแยกได้ว่า ถ้าต้องการเลือกคนแต่ไม่เลือกพรรค หรือเลือกพรรคแต่ไม่เลือกคนนี้จะทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นตัวบุคคลจะมีความสำคัญสำหรับบัตรใบเดียว แต่พรรคการเมืองก็ดูเหมือนจะถูกด้อยค่าลงไป
“ซึ่งหลักการประชาธิปไตยนั้น พรรคการเมืองควรเป็นสถาบัน หรือกลไกที่มีความสำคัญเป็นลำดับต้น เพราะถ้าพรรคการเมืองไม่เข้มแข็ง ไม่มีความสำคัญ ประชาธิปไตยก็จะไปยาก เมื่อเป็นแบบบัตร 2 ใบแล้ว ก็คิดว่าจะทำให้พรรคการเมืองมีความสำคัญขึ้น การลงสมัครรับเลือกตั้ง นอกจากประชาชนจะพิจารณาตัวบุคคลแล้ว ก็ต้องพิจารณาพรรคการเมืองด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี และประชาธิปัตย์ก็สนับสนุนมาตลอด มาถึงวันนี้เมื่อรัฐธรรมนูญเป็นแบบนี้ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการสร้างความเข้มแข็งในระบอบประชาธิปไตยรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต่อไป” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะต้องปรับโครงการอย่างไรหรือไม่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า คงไม่ต้องปรับอะไร เพราะเราก็เคยคุ้นกับระบบนี้อยู่แล้ว เพียงแต่เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 มาแก้เป็นบัตรใบเดียวอันนั้นเราต้องปรับตัว ทุกพรรคต้องปรับตัว แต่ถ้าย้อนกลับไปใช้บัตร 2 ใบ มันเป็นสิ่งที่เราเคยทำมาแล้ว ประชาชนก็เข้าใจดีอยู่แล้ว บัตรใบที่ 1 ก็เลือกบุคคล บัตรใบที่ 2 ก็เลือกพรรคการเมือง มันมีความชัดเจนในตัวของมัน
ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้งคน และพรรค ควรเป็นเบอร์เดียวกันด้วยหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ควรจะเป็นเบอร์เดียวกัน เพื่อความสะดวกของพี่น้องประชาชนในการพิจารณาและตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปถึงเรื่องการส่งตัวผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะส่งครบทั้ง 400 กว่าเขตหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ก็กำลังดำเนินการอยู่ในเรื่องตัวบุคคล เพราะมีความคืบหน้าเยอะ โดยหลักก็ควรจะส่งให้ครบทุกเขต
ผู้สื่อข่าวระบุว่า มีอดีต กกต. คนหนึ่งให้ความเห็นว่า การใช้ระบบนี้จะเป็นการเทคะแนนให้พรรคเพื่อไทยนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า อยู่ที่ประชาชน การวิเคราะห์วิจารณ์นั้นมันอาจจะตรงหรือไม่ตรงกับข้อเท็จจริงก็ได้ ถึงเวลาประชาชนอาจจะพิจารณาไปทางใดทางหนึ่งก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับเสียงของพี่น้องประชาชน เราไปคาดคะแนนก่อน มันก็คือการคาดคะเนเท่านั้น และประชาธิปัตย์เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในร่างนี้ ก็ด้วยเหตุผลที่ต้องการให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง แล้วก็ไม่ได้ไปพิจารณาว่าจะเป็นประโยชน์ของพรรคการเมือง พรรคไหนได้เปรียบ-เสียเปรียบ เราต้องการให้ระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภาไทยได้เปรียบ ได้มีความเข้มแข็ง