ทางสองแพร่ง “บ่อนกาสิโน” เดิมพัน"รายได้-อนาคตประเทศ"
กฎหมายเกี่ยวกับการอนุญาตให้เปิด “บ่อนกาสิโน” กลายเป็นวาระร้อนในสภาฯ ที่คนไทยจับตามากที่สุด เบื้องต้น “กมธ.บ่อนกาสิโน” เตรียมตั้งคณะอนุกรรมาธิการฯ 6 คณะ
กฎหมายเกี่ยวกับการอนุญาตให้เปิด “บ่อนกาสิโน” กลายเป็นวาระร้อนในสภาฯ ที่คนไทยจับตามากที่สุด โดยจะมีการประชุมคณะกรรมมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร หรือ Entertainment Complex การจัดเก็บรายได้ และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย และมาตรการในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้า และการพนันออนไลน์ นัดแรกในวันที่ 9 ธ.ค.2564 นี้
เบื้องต้น “กมธ.บ่อนกาสิโน” เตรียมตั้งคณะอนุกรรมาธิการฯ 6 คณะ ดังนี้
1.คณะอนุกรรมาธิการศึกษาบ่อนกาสิโนภายในประเทศที่แอบเปิดผิดกฎหมายภายในประเทศ และตู้สล็อตทุกประเภท ว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้าง
โดยศึกษาในส่วนของรายได้นอกระบบ และการเก็บส่วย หากทำกาสิโนที่ถูกกฎหมาย และนำเงินเข้าสู่ระบบอย่างถูกต้องตามกฎหมายจะได้ภาษีเท่าไร และต้องมีการดำเนินการอย่างไร จะเป็นลักษณะการร่วมทุนระหว่างรัฐบาลกับภาคเอกชนถือหุ้นร่วมกัน หรือรัฐบาลถือหุ้น 100% หรือภาคเอกชนถือหุ้น 100% และเสียภาษีให้รัฐบาล ซึ่งจะต้องมีการศึกษาในรายละเอียดต่อไป
2.คณะอนุกรรมาธิการเพื่อศึกษากาสิโนของประเทศเพื่อนบ้านที่มีอยู่ 40 แห่ง โดยศึกษาการดำเนินการด้วยเงินทุนเท่าไร มีคนไทยเข้าไปเล่นบ่อนกาสิโนที่ถูกกฎหมายเท่าไร คนจีนที่เป็นนักท่องเที่ยว สัดส่วนของนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเล่นในบ่อนกาสิโนมีเท่าไร
3.คณะอนุกรรมาธิการศึกษาบ่อนกาสิโนในต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จ เช่น ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา มาเก๊า เก็นติ้งไฮแลนด์ ประเทศมาเลเซีย มารีนาเบย์แซนส์ ประเทศสิงคโปร์ หรือที่เกาะเกาลูน ว่าเขาเปิดแล้วเขาเป็นยังไงบ้าง มีการแบ่งสัดส่วนรายได้อย่างไร มีรายได้เข้ารัฐกี่เปอร์เซ็นต์
4.คณะอนุกรรมาธิการศึกษาผลกระทบจากการเปิดกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศแบบเต็มรูปแบบ จะมีผลกระทบในด้านสังคม ศาสนาและศีลธรรมอย่างไร รวมทั้งในส่วนของปัญอาชญากรรมจะเพิ่มขึ้น หรือลดน้อยลง
5.คณะอนุกรรมาธิการศึกษากรณีที่หากประเทศไทยไม่เปิดให้มีสถานบันเทิงอย่างครบวงจร และบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย หากไม่นำรายได้ที่ผิดกฎหมายให้มาอยู่ในระบบกฎหมายที่ถูกต้อง จะมีเงินมาบริหารประเทศหรือไม่
6.คณะอนุกรรมาธิการศึกษากรณี หากเปิดบ่อนกาสิโนแล้วจะสามารถช่วยแก้ปัญหากรณีที่มีเงินสนับสนุนแก่พรรคการเมือง และนักการเมืองที่ได้รับเงินส่วยจากบ่อนพนันผิดกฎหมายได้หรือไม่ เนื่องจากมีเงินสีเทาที่มาลงทุนกับพรรคการเมือง และนักการเมือง โดยทำธุรกิจเงินแฝงมากถึง 2-3 ล้านล้านบาทต่อปี
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ กมธ.บ่อนกาสิโน ระบุว่า นักเล่นพนันจริงๆ มีไม่มาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวที่เอาเงินมาเที่ยวเมืองไทยมากกว่า ยกตัวอย่าง บ่อนประเทศเพื่อนบ้านมี 40 แห่ง หากในบ่อนกาสิโน 1 แห่ง มีโต๊ะพนัน 100 โต๊ะ มีคนเข้าไปเล่นพนันเป็นล้านคน ซึ่งอาจจะพกเงินไปเล่นพนันคนละ 1 แสนบาท และอาจใช้เงินเล่นจริงไป 2 หมื่นบาทต่อคน คิดเป็นวงเงินคร่าว ๆ ก็มีรายได้ที่เข้าบ่อนพนันถึง 8 แสนล้านต่อปี
“สมมุติถ้ามีเงินหมุนเวียน 10 ล้านบาทต่อโต๊ะพนัน 1 โต๊ะ แล้วถ้าโต๊ะพนัน100 โต๊ะ ก็เท่ากับมีเงินหมุนเวียนจำนวนถึง 1,000 ล้านบาทต่อบ่อนกาสิโน 1 แห่ง และในวันเดียวนั้น ก็จะมีเงินหมุนเวียนถึง 4 หมื่นล้านบาท หรือถ้าสมมุติมีเงินหมุนเวียน 2 หมื่นล้านบาทต่อวัน ก็จะตกเดือนละ 6 แสนล้านบาท ปีละประมาณ 7.2 ล้านล้านบาท มากกว่าเงินงบประมาณแผ่นดินถึง 2 เท่าต่อปี หรืออย่างที่มาเก๊า บ่อนกาสิโนเอกชนที่เปิด 100% เขาเสียภาษีให้รัฐ 10 % เมื่อหักรายจ่ายต่าง ๆ แล้วได้กำไรสุทธิ 1.45 ล้านล้านบาทต่อปี” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.พรรคพลังท้องถิ่นไท กมธ.บ่อนกาสิโน กล่าวว่า เชื่อว่าบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายอาจจะเป็นจริงได้ ตนได้คุยกับคนทำการพนันออนไลน์ เขาก็บอกว่าเราไม่สามารถไปห้ามได้ เพราะเป็นการเล่นการพนันผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เขาก็ถามว่าทำไมไม่ทำให้ถูกกฎหมาย ซึ่งจะดีกว่าหรือไม่
ส่วนเสียงคัดค้านที่มองว่าผิดศีลธรรมนั้น ก็เป็นสิทธิของเขา แต่ถ้าเราทำแล้วมีรายได้เข้ามา ไปใช้หนี้ต่างประเทศได้ ใช้หนี้ กยศ.แทนเด็ก ส่งเสริมเด็กให้เรียนจบปริญญาตรีได้ มันจะไม่ดีกว่าหรือ เรานำเงินที่จะได้ไปช่วยในด้านต่างๆ จะดีกว่า โดยรัฐบาลไปออกกฎระเบียบมาคุมได้
“เท่าที่ผมมีประสบการณ์ด้านนี้มา คนที่เข้าไปเล่นกาสิโนเขาก็เล่นสนุกสนานมากกว่า ไม่ได้ถึงขนาดหมดเนื้อหมดตัว คนที่เล่นพนันหลักล้าน ไม่ใช่เล่นกันได้เลย เรามองว่าเราจัดที่เล่นให้ถูกกฎหมายเลยจะดีกว่า ผมพูดเรื่องนี้มา 30 ปีแล้ว ใครจะมองว่าไม่ดี แต่ในภายภาคหน้า หากมันทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เขาก็จะเข้าใจเราเอง” นายชัชวาลล์ กล่าว
รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) นักวิชาการที่ศึกษากรณีบ่อนกาสิโน กล่าวว่า หากประเทศไทยมีกาสิโนถูกกฎหมายเกิดขึ้น จะทำให้มีข้อดีคือทำให้รัฐบาลมีรายได้เข้าประเทศ โดยนำธุรกิจใต้ดินที่ผิดกฎหมายมาอยู่บนดิน แต่ก็ต้องมีมาตรการป้องกันด้วยเช่นกัน
“คนไทยยนิยมไปเล่นกาสิโนที่ถูกกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน เราสามารถรักษาเงินตราในส่วนนี้ไว้ได้ ถ้าเราจะเปิดให้มีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย เราจะมีศึกษาทั้งในส่วนของข้อดี และข้อเสียของการเปิดกาสิโนจากประเทศต่างๆ ที่เปิดมาแล้ว เรียกว่าเปิดทีหลัง เกิดทีหลังได้เปรียบ เพราะเห็นคนอื่นทำมาแล้ว และเราถึงค่อยมาทำ” รศ.ดร.สังศิต ระบุ
รศ.ดร.สังศิต กล่าวต่อว่า กาสิโนถูกกฎหมายที่สิงคโปร์ไม่เหมือนที่ไหนในโลก เขาไม่ได้ต้องการนักพนัน เขาต้องการทำธุรกิจการประชุมนานาชาติ การแสดงสินค้านานาชาติ กาสิโนมีเพียง 3-5% จาก 100% เท่านั้น ที่เหลือคือห้องประชุม หากมาประชุม 3 วัน หลังจบประชุมในวันแรก วันที่สองเป็นการชอปปิง และวันสุดท้ายก็จะเป็นการเบ่อนกาสิโน ไปเล่นเพื่อความสนุก และคนเหล่านี้ไม่ใช่นักพนันและเขามีฐานะดี เขาก็จะเสียเงินประมาณ 1-2 แสนบาท แต่พอรวมหลายๆ คนที่เข้าไปเล่นแล้ว รัฐบาลสิงคโปร์สามารถจัดเก็บภาษีในปีหนึ่งได้กว่าแสนล้านบาท ถ้าไทยจะทำสถานบันเทิงครบวงจรและบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย เราต้องทำให้ได้ดีกว่าสิงคโปร์
“ในประเทศไทย หากมีการเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายขึ้นได้จริง การกำหนดผู้ที่จะสามารถเข้าไปเล่นพนันได้นั้น ในส่วนของคนไทยด้วยกัน ก็อาจเปิดให้เฉพาะกลุ่มผู้ที่มีรายได้สูงให้เข้าไปเล่นได้ เพื่อป้องกันเงินไหลออกนอกประเทศ ซึ่งก็คงมีคนเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ขณะเดียวกันก็เปิดให้ชาวต่างชาติสามารถเข้าไปเล่นได้”
ขณะเดียวกัน ก็ยังมีหลายกลุ่มในสังคมไทย ที่ไม่เห็นด้วยกับการเปิดกาสิโนเสรี โดย เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง และเครือข่ายสื่อเพื่อการขับเคลื่อนสังคม (Media move) เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านทางนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร คัดค้านผลักดันให้มีบ่อนกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมายในประเทศไทย
นายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน กล่าวว่า เครือข่ายมีจุดยืนไม่สนับสนุนกาสิโนหรือพนันออนไลน์ถูกกฎหมายในประเทศไทย ซึ่งมิใช่เรื่องจุดยืนในทางศีลธรรมหรือศาสนา หรือดัดจริต แต่เป็นเพราะปัญหาการพนันอื่นๆที่ผ่านมาในสังคมไทย ยังไม่มีการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะในรัฐบาลใด เราพบแต่วาทกรรม ความล้มเหลวและการขยายตัวของการพนันที่มากขึ้น รวมถึงการปฏิรูปตำรวจที่มีส่วนเชื่อมโยงกับธุรกิจสีเทาเหล่านี้ก็ยังย่ำอยู่กับที่
“ขอเรียกร้องให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญและทุมเทกับการป้องกันปัญหาและศึกษาผลกระทบจากการพนันทุกรูปแบบอย่างจริงจัง ควรร่วมคิดอ่านมาตรการ แนวทางอย่างเป็นระบบ มีมาตรการเชิงรุก แก้ปัญหาการพนันให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะพนันออนไลน์ ที่พบว่าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงการพนันเพิ่มมากขึ้น”
นอกจากนี้ ทางเครือข่ายฯ ขอเรียกร้องให้เพื่อนเด็กๆ เยาวชน ซึ่งจะเติบโตเป็นอนาคตของชาติ จับตาเรื่องนี้กันอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยให้อนาคตของเราถูกวางล้อมไว้ด้วยการมอมเมา ชีวิตอยู่กับการเสี่ยงโชค เสี่ยงดวง ควรช่วยกันศึกษาและแสดงออกถึงความต้องการที่แท้จริงของเรา ร่วมกันกำหนดอนาคตของเรา
ความพยายามในการขับเคลื่อนให้บ่อนกาสิโนถูกกฎหมายเกิดขึ้นในประเทศไทย ในเชิงนโยบายที่ชัดเจนมากกว่าครั้งใดๆ ท่ามกลางความเห็นของกลุ่มต่างๆ ในสังคม ที่ยังต้องรับฟังความรอบด้านอย่างรอบคอบ ที่สุดแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจรัฐบาล จะหาบทสรุปอย่างไร บนทางสองแพร่งที่มีทั้งประโยชน์และผลกระทบ ที่ไม่อาจประเมินค่าได้