สาแหรกชีวิต-ธุรกิจ “ชัช เตาปูน” สานฝัน “กาสิโน” ถูกกฎหมาย
ปัจจุบัน“ชัช เตาปูน” ในวัย 76 ปี จะผลักดัน“บ่อนกาสิโน” ให้ถูกกฎหมาย สานฝันที่เคยเริ่มไว้เมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมาได้สำเร็จหรือไม่ เมื่อครั้งนี้มีลุ้นกว่าครั้งไหน ๆ
ประเด็นการผลักดันเปิด “บ่อนกาสิโน” กำลังเป็น “เผือกร้อน” ของสภาผู้แทนราษฎร ภายหลังมีความพยายามเสนอร่างกฎหมายให้ดำเนินการได้อย่างเสรี และมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex โดยมีการเก็บรายได้ และภาษีจาก “ธุรกิจกาสิโน” แบบถูกกฎหมาย
กมธ.กาสิโนฯ ชุดดังกล่าวจะเริ่มประชุมนัดแรกในวันที่ 9 ธ.ค. 2564 และจะมีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการรวม 6 คณะ
สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กับการผลักดันให้ธุรกิจ “กาสิโน” ถูกกฎหมาย คือ ส.ส. ที่เข้าไปนั่งใน กมธ.ชุดดังกล่าว ปรากฏชื่อ ชัชวาลล์ คงอุดม หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “ชัช เตาปูน” หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ซึ่งมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันมานักต่อนักถึง “กิตติศัพท์” ของเจ้าตัวในแวดวง “การพนัน”
กว่าจะมาเป็น “ชัช เตาปูน” อย่างทุกวันนี้ เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์หลายรายการหลายแห่งยอมรับว่า ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก เคยเป็น “เด็กช่าง” แต่เรียนไม่จบ ในอดีตเคยเป็น “นักเล่น” ตัวยง และยอมรับด้วยหากเรียกตัวเองว่า “เจ้าพ่อ” แต่ไม่ชอบให้เรียกว่า “มาเฟีย”
สำหรับการเปิดบ่อนการพนันนั้น เจ้าตัวเคยยืนยันผ่านรายการ “วู้ดดี้ เกิดมาคุย” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เมื่อหลายปีก่อนว่า เคยเล่นและหยุดเล่นการพนันไปไม่ต่ำกว่า 17 ปีแล้ว ขณะที่บ่อนได้ขายให้บุคคลอื่นไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน ส่วนคนที่ซื้อต่อเอาไปทำอะไรเป็นเรื่องของเขา
ยืนยันแม้หลายคนจะติดภาพว่าเป็น “นักพนัน” อยู่ก็ตาม แต่คงไปห้ามความรู้สึกคนอื่นไม่ได้ แต่เรื่องนี้ไม่โกหกอย่างแน่นอน
ในทางการเมือง “ชัช เตาปูน” มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนักการเมืองชื่อดัง อดีตหัวหน้าพรรคกิจสังคม อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ “สยามรัฐ” เป็นอย่างมาก โดยเคยเล่าว่าในช่วงหลังเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น และ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ มาลงสมัคร ส.ส. พื้นที่ “เตาปูน” ทำให้ “ชัช เตาปูน” ไปช่วยเหลือ
กระทั่ง “ม.ร.ว.คึกฤทธิ์” เดินเกมชั้นเซียนในสภาขึ้นถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งที่มี ส.ส.ในพรรคกิจสังคมเพียง 18 คน ทำให้ไม่มีเวลาบริหารจัดการหนังสือพิมพ์สยามรัฐ จึงส่งไม้ต่อมาให้ชัช เตาปูน เข้ามาช่วยงาน และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในกิจการหนังสือพิมพ์ กระทั่งในปี 2539 ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ได้มอบหมายให้เขาสืบสานกิจการ “สยามรัฐ” จนถึงทุกวันนี้ (ปัจจุบัน นสพ.สยามรัฐ มี "กตพล คงอุดม" เป็นผู้บริหาร และกรรมการบริษัท)
หลังจากนั้น “ชัช เตาปูน” เดินบนทางสองแพร่ง “ผู้บริหารสื่อสิ่งพิมพ์-นักการเมือง” อย่างเต็มอัตราศึก โดยชนะการเลือกตั้ง ส.ว.กทม. เมื่อปี 2543 และทำข้อเสนอที่เรียกเสียงฮือฮา และเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในยุคนั้นคือ การผลักดันให้มี “บ่อนการพนัน” แบบถูกกฎหมายเป็นครั้งแรก เพื่อป้องกันเงินไหลออกนอกประเทศ ทว่าไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากรัฐบาลขณะนั้นทนแรงกดดันจากสังคมไม่ไหว
ชื่อของ “ชัช เตาปูน” ถูกพูดถึงในหลายวงการ หลายมิติ จนนิยามตัวเองไม่ได้ว่า อยู่ในวงการใดมากกว่า แทบทุกวงการใครเดือดร้อนก็เข้ามาหา แต่เจ้าตัวบอกว่าไม่เคยได้รับความช่วยเหลือกลับโดยเฉพาะจากนักการเมือง
ในเรื่องการ “ปลุกปั้น” นักการเมือง มิใช่แค่ “ม.ร.ว.คึกฤทธิ์” เท่านั้น แต่ยังมีนักการเมืองอีกหลายคนที่ “ชัช เตาปูน” คอยช่วยเหลือในยามเลือกตั้ง หลายคนได้เป็น ส.ส. และรัฐมนตรี รวมถึงนายกรัฐมนตรีมาแล้ว โดยเฉพาะใน “ค่ายสีฟ้า” พรรคประชาธิปัตย์ ที่คอยช่วยเหลือตั้งแต่ทศวรรษ 2550 เป็นต้นมา มี “ลูกชาย” อย่าง "ชื่นชอบ คงอุดม" ได้เป็น ส.ส.ในสังกัด จากการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 ส่วนลูกสาวเป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) “ค่ายสะตอ” เช่นเดียวกัน
ชัช เตาปูน เคยอ้างในรายการ “วู้ดดี้ เกิดมาคุย” ด้วยว่า ก่อนจัดตั้งพรรคไทยรักไทย “ทักษิณ ชินวัตร” เคยมาปรึกษาและบอกว่า “พี่ผมรวยแล้ว ผมอยากรับใช้ประเทศ อยากทำให้ประเทศ” กระทั่ง “ทักษิณ” ได้เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกเมื่อปี 2544 อีกด้วย
ปัจจุบัน “ชัช เตาปูน” ยังคงโลดแล่นในแวดวงการเมือง “ในทางแจ้ง” จัดตั้งพรรคพลังท้องถิ่นไทเมื่อปี 2555 และส่งผู้สมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 โดยได้ ส.ส. 3 ที่นั่ง และร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ผลักดัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี สมัยที่ 2 หลังจากนั้นได้รับสมาชิกใหม่มาเพิ่มอีก 2 ราย คือ “อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่” ที่ถูกครหาว่าเป็น “งูเห่า”ในสภา จึงมี ส.ส.รวมเป็น 5 เสียง
มุมชีวิตส่วนตัว “ชัช เตาปูน” แต่งงานอยู่กินฉันท์สามีภรรยากับ วงศ์เดือน คงอุดม มายาวนานหลายสิบปี และทั้งสองเคยทำธุรกิจร่วมกันหลายแห่ง
ชัชวาลล์ คงอุดม แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2562 ร่วมกับภรรยา รวม 1,088,573,006 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 70,715,818 บาท เป็นทรัพย์สินของตัวเอง 680,913,747 บาท และภรรยา 407,659,259 บาท
อย่างไรก็ดี สมบัติของ “ชัช เตาปูน” กว่า 680 ล้านบาทข้างต้น ในจำนวนนี้เป็นทรัพย์สินจากการถือครอง “พระเครื่อง-วัตถุมงคล” 49 รายการ รวมมูลค่า 496,400,000 บาท เช่น พระเบญจภาคี 2 ชุด ชุดละ 100 ล้านบาท พระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย ศิลปะล้านนา สูงฐานรวม 29 นิ้ว หน้าตักกว้าง 22 นิ้ว มูลค่า 30 ล้านบาท สมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์ใหญ่ 6 องค์ องค์ละ 5-20 ล้านบาท เป็นต้น
มุมธุรกิจพบว่าชื่อ ชัชวาลล์ คงอุดม เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 9 แห่ง ทุกแห่งไม่ได้ดำเนินกิจการแล้ว ระบุสถานะว่า “ร้าง” หรือ “เสร็จชำระบัญชี” ทั้งหมด ได้แก่ 1.บริษัท กาแฟบางกอก จำกัด 2.บริษัท คิว อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 3.บริษัท ซี วี เอส โฮลดิ้ง จำกัด 4.บริษัท รวมทุนพัฒนาเคหะการเกษตร จำกัด 5.บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลมัลติซิสเต็มส์ จำกัด 6.บริษัท เตาปูน เตาเผา จำกัด 7.บริษัท เตาปูน แลนด์ จำกัด 8.บริษัท เตาปูนขนส่ง จำกัด 9.บริษัท แซมบราวน์ จำกัด
ส่วนวงศ์เดือน คงอุดม เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 9 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นกรรมการร่วมกับสามี 1 แห่งคือ บริษัท เตาปูน เตาเผา จำกัด ส่วนที่เหลืออีก 8 แห่ง ยังเปิดดำเนินกิจการอยู่ 3 แห่ง ได้แก่
1.บริษัท ดับบลิว.ซี.เค.พรอพเพอร์ตี้ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2546 ทุนปัจจุบัน 30 ล้านบาททำธุรกิจค้าอสังหาริมทรัพย์ นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีรายได้รวม 44,839 บาท ขาดทุนสุทธิ 148,189 บาท
2.บริษัท ดับเบิ้ลยู มาร์เก็ตติ้ง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2545 ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ทำธุรกิจบริการดูแลและรักษาหลักทรัพย์ นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีรายได้รวม 17,477 บาท ขาดทุนสุทธิ 861,146 บาท
3.บริษัท โอเพิล มายด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2544 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ทำธุรกิจการบริการอินเทอร์เน็ตแบบใช้สายและไร้สาย นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 ไม่มีรายได้ ขาดทุนสุทธิ 10,800 บาท
ทั้งหมดคือที่มาประวัติอันโลดโผนของ “ชัช เตาปูน” รวมถึงข้อมูลในมุม “ทรัพย์สิน-ธุรกิจ” ไม่นับรวมของลูก และเครือญาติ อีกหลายแห่ง
ปัจจุบัน “ชัช เตาปูน” ในวัย 76 ปี จะผลักดัน “บ่อนกาสิโน” ให้ถูกกฎหมาย สานฝันที่เคยเริ่มไว้เมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมาได้สำเร็จหรือไม่ เมื่อครั้งนี้มีลุ้นกว่าครั้งไหน ๆ