"ชูศักดิ์" ชี้ 89 ปีรธน. ยิ่งห่างไกลประชาธิปไตย ปลุกทุกฝ่ายทลายกำแพง
‘ชูศักดิ์’ ชี้ ‘89 ปีรัฐธรรมนูญไทย ยิ่งห่างไกลประชาธิปไตย ปลุกทุกฝ่ายร่วมกันทำลายกำแพงอำนาจ ใช้ช่องทางกฎหมายประชามติ สร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนอย่างแท้จริง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เผยแพร่บทความ ‘89 ปีรัฐธรรมนูญไทย ยิ่งห่างไกลประชาธิปไตย’ เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม 2564
ระบุว่า 10 ธันวาคม 2564 ถือเป็นวันครบรอบ 89 ปี ของการมีรัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2475 ซึ่งเกิดขึ้นโดยผลของการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าตลอดช่วงระยะเวลาดังกล่าว แทนที่ประเทศไทยจะได้อาศัยกลไกของรัฐธรรมนูญนำพาประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย และสร้างระบบการเมืองการปกครองให้เกิดความมั่นคง สร้างความเจริญรุ่งเรืองทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ดังเช่นประเทศประชาธิปไตยอื่นๆ แต่ทุกอย่างกลับเดินหน้าแล้วถอยหลังอยู่ตลอด เหตุผลสำคัญมาจากความต้องการอำนาจของฝ่ายผู้นำกองทัพที่มักจะอ้างความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเข้าทำรัฐประหารอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่ประเทศที่เจริญแล้วทั่วโลกไม่มีใครเขาทำกัน จนได้ชื่อว่าประเทศไทยมีรัฐประหารติดอันดับต้นๆ ของโลก ประเทศไทยจึงถูกปกครองโดยทหารเสียเป็นส่วนใหญ่ รัฐธรรมนูญที่ถูกสร้างขึ้นจึงเป็นรัฐธรรมนูญตามความต้องการของ ผู้นำทหารในแต่ละช่วงเวลา ไม่ได้เกิดจากเจตนารมณ์ร่วมกันของประชาชน
โดยในจำนวนรัฐธรรมนูญ 20 ฉบับ นับถึงรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นเป็นผลพวงของการรัฐประหารเสียเป็นส่วนใหญ่ มีน้อยมากที่ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการจัดทำ ซึ่งไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่ต้องการให้เป็นการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน
การรัฐประหารล่าสุดเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 ถือเป็นรัฐประหารที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์ แม้จะไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ แต่ผู้นำรัฐประหารได้ใช้กลไกของรัฐธรรมนูญสร้างความได้เปรียบทางการเมืองเพื่อการสืบทอดอำนาจของตนเองต่อไปให้ยาวนานที่สุด
โดยมีเนติบริกรเป็นผู้รับใช้วางกลไกให้อย่างแยบยล จึงทำให้กลไกตามรัฐธรรมนูญปัจจุบันถูกใช้เพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่ม สร้างวุฒิสภาให้เป็นสภาตรายาง องค์กรอิสระถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ระบบการตรวจสอบถ่วงดุลเสียความสมดุล การกำหนดให้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทำได้ยาก
จึงถือได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันยิ่งห่างไกลจากความเป็นประชาธิปไตย มีความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยทั้งรายประเด็นและแก้ทั้งฉบับ แต่ก็ถูกขัดขวางโดยกลไกที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้สร้างขึ้นไว้
พรรคเพื่อไทยจึงเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนทั้งประเทศจะได้ร่วมกันสร้างรัฐธรรมนูญ ที่เป็นสัญญาประชาคมอันเกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริงเพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดรัฐธรรมนูญนิยม (Constitutionalism) โดยใช้กลไกของรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษร ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ เพื่อสร้างหลักประกันการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในการปฏิบัติอย่างแท้จริง สร้างระบบการเมืองที่มีเสถียรภาพและมีประสิทธิภาพ มีความเป็นประชาธิปไตย สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับระบบการเมือง และสังคม ระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐจะต้องเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา เกิดความสมดุลในการใช้อำนาจของแต่ละองค์กร การใช้อำนาจของศาลและองค์กรอิสระต้องเป็นไปอย่าง เที่ยงธรรมและเป็นไปตามหลักนิติธรรม
แม้ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านได้พยายามผลักดันให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง แต่ก็มีอุปสรรคจนไม่อาจทำได้สำเร็จแต่ ณ เวลานี้ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พรรคเพื่อไทยจะร่วมกับประชาชนเพื่อดำเนินการให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ได้ เพื่อให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนอย่างแท้จริง
พรรคเพื่อไทยจึงเห็นว่าวันรัฐธรรมนูญปีนี้ พี่น้องประชาชนควรจะใช้เป็นวันเริ่มต้นของการคิดอ่านที่จะสร้างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อทำลายกำแพงแห่งอำนาจที่ถูกสร้างไว้ด้วยกระบวนการที่ไม่ชอบธรรมให้พังทลายลง