ไม่มีเหตุผลให้ “ก้าวไกล” หนุน “ชัชชาติ”! “พิธา” อัพเดตส่งคนชิง “ผู้ว่าฯ กทม.”
“พิธา” อัพเดตเปิดตัวผู้สมัครชิง “ผู้ว่าฯ กทม.” ปัดตอบ “พี่สาวธนาธร-ศิริกัญญา” ให้รอดูหลังปีใหม่ โวโพรไฟล์ดีไม่แพ้ “ชัชชาติ-ดร.เอ้” อ้างฝรั่งถามตลอดกังวล “มือที่มองไม่เห็น” ยุบพรรค “ชัยธวัช” พูดแฟร์ ๆ ไม่มีเหตุผล “ก้าวไกล” ต้องหนุน “ชัชชาติ”
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงประเด็นการเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคก้าวไกล ว่า จะเปิดตัวช่วงครึ่งเเรกของเดือน ม.ค.ปี 2565 หรือหลังปีใหม่ โดยทำงานมา 6-7 เดือนแล้ว ทั้งการฟอร์มทีมและด้านนโยบาย พรรคก้าวไกลมี ส.ส.กทม.เยอะ ถ้าไม่เสนอตัวคงเป็นไปไม่ได้ การเลือกตั้งสมัยนี้ ไม่ใช่เเค่หยั่งกระเเส ไม่ใช่แค่เกมการเมืองการวัดคะแนนเสียง แต่ต้องหาตัวคนที่ดีที่สุด นโยบายที่ดีที่สุด ให้ประชาชนตัดสิน คนที่เราคิดว่าจะส่งลงสนาม มีความสด ชัดเจน ทำงานร่วมกับพรรค เช่นเรื่องนิติบัญญัติ งาน กทม. อย่างไร้รอยต่อ
ปัดตอบ “พี่สาวธนาธร-ศิริกัญญา” ให้รอดูหลังปีใหม่
เมื่อถามว่าใช่ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ พี่สาวนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า หรือ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หรือไม่ นายพิธา หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า เดี๋ยวรอฟังพร้อมกันหลังปีใหม่ 2565 แล้วกัน
เมื่อถามย้ำว่า เห็นว่าผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคก้าวไกล คือเป็นผู้หญิงแน่ ๆ
นายพิธา ตอบว่า ไม่มีอะไรตายตัว คงไม่ได้จะตอบว่า ใช่หรือไม่ใช่ อย่างไรก็ตามตอนนี้จะมีการเเข่งกันอีกหลายเรื่อง เช่น การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ชุมพร จ.สงขลา ตอนนี้เราได้ตัวผู้สมัครแล้ว เตรียมจะต้องลงไปหาเสียง เป็นคนพื้นที่จริง ๆ เป็นคนที่ดูแลเรื่องปัญหาที่ดิน มั่นใจว่าแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนได้
โวโพรไฟล์ดีไม่แพ้ “ชัชชาติ-ดร.เอ้”
เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์กันว่า เมื่อเทียบกับผู้สมัครพรรคอื่น ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคก้าวไกล คือตัวแปรสำคัญ หรือบางคนอาจมองว่าไม่ใช่ตัวเต็ง นายพิธา กล่าวว่า ผู้สมัครของพรรคก้าวไกล โพรไฟล์ไม่แพ้ทั้ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ในฐานะผู้สมัครอิสระ หรือ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ว่ามีแนวคิดที่ต่างจากเรื่องที่ว่า กทม.จะต้องสร้างคมนาคม สร้างเมืองอย่างเดียว เราเน้นสร้างคน ระบบการศึกษา สาธารณสุข มองกรุงเทพ ไม่ใช่แค่ กทม. แต่กว้างกว่านั้น
“ผู้ว่าฯลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตอนเขาหาเสียงเขาใช้ london and greater london เขาดูรอบ ๆด้วย ไม่ใช่เอาเส้นจังหวัดมาแบ่งเส้นกัน เราไม่ถึงขั้นจะบอกว่านี่คือนโยบาย แต่คิดว่าวิธีมองแบบนี้เป็นการมองที่ต่างจากผู้ที่หาเสียงอยู่ ณ ปัจจุบัน บริหารเมืองก็คือบริหารเมือง แบงค็อก คือ Greater Bangkok และเส้นเมืองคือเส้นสมมติ เส้นจังหวัดคือเส้นสมมติ ความเป็นเมืองคือของจริง แต่ไม่ใช่ว่าเป็นอะไรที่จะทำได้ในรอบแรก ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมต้องมีอะไรที่ชัดเจนและต้องต่อสู้กันต่อ แต่ว่ามุมมอง ของเรามันค่อนข้างต่างจากนายชัชชาติ หรือนายสุชัชวีร์” นายพิธา กล่าว
อ้างฝรั่งถามตลอดกังวล “มือที่มองไม่เห็น” ยุบพรรค
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวด้วยว่า ก้าวข้ามเรื่องบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ไปแล้ว จะกติกาไหน ปรับทีมสู้เต็มที่ พร้อมสู้ทุกกติกาอยู่แล้ว แต่ถ้าพอถึงเวลาที่ถึงคิวที่เรากลายเป็นพรรคใหญ่ จะจำเอาไว้ว่าการเมืองที่เอากติกาให้ได้เปรียบอีกฝ่าย การแบ่งเขตให้อีกฝ่ายได้เปรียบ เป็นกลการเมือง ที่เราจะไม่มาใช้อย่างนั้น นอกจากนี้หนึ่งคำถามจากนานาชาติ จากทูตต่าง ๆ ที่ตนโดนถามเยอะที่สุด คือ เขาบอกว่าประเทศเขาเกิดมาไม่เคยมีวิธีกำจัดพรรคการเมืองแบบนี้ คือของเขาจะเล่นงานกันเป็นรายบุคคลไป โดยสถาบันการเมือง ไม่ควรถูกคนอื่นที่มีอำนาจเหนือ คือมีการแต่งตั้งมา มายุบคนที่ประชาชนเลือกมา มันไม่ควรเป็นเรื่องปกติวิสัยของบ้านคุณ เขากังวลเรื่องเกี่ยวกับการใช้นิติสงครามกระทบกับเรื่องการเมือง และเกี่ยวกับในเรื่องของการเข้ามาลงทุน เขาเห็นว่ามันสามารถที่จะมีมือที่มองไม่เห็น ทำให้เขาไม่สบายใจที่จะเข้ามาลงทุน
พูดแฟร์ ๆ ไม่มีเหตุผล “ก้าวไกล” ต้องหนุน “ชัชชาติ”
ส่วนนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงประเด็นการเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคก้าวไกล ว่า การที่พรรคต้องส่งคนลง คือการแก้ปัญหา กทม. ต้องแก้ผ่านสภาฯด้วย นี่ต้องเดินคู่กัน ต้องดันการจัดการ กทม.ใหม่ ไม่ว่าจะเพิ่มอำนาจคน กทม. คงจะต้องขยายไปที่ปริมณฑลอย่างที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลพูดไว้ด้วย มันต้องเป็น Greater Bangkok ต้องเอาอำนาจการจัดการ อาทิ การขนส่ง น้ำ ไฟ ไม่อย่างนั้นแก้ไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องทำในนามพรรคการเมือง
เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์กันว่า เมื่อเทียบกับผู้สมัครพรรคอื่น ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคก้าวไกล คือตัวแปรสำคัญ หรือบางคนอาจมองว่าไม่ใช่ตัวเต็ง เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า อาจจะมีการมองแค่ว่า พรรคก้าวไกลเป็นเเค่ตัวแปร แต่ย้ำว่าเราจริงจัง อีกอย่างถ้า เราคิดแบบนี้ เช่น ลงมาตัดคะแนนเสียงทำไม ด้วยความเคารพ ถ้าคิดแบบนี้คือไม่มีอนาคตใหม่เลยนะ เราไม่ได้คิดแบบนั้นเลย ถ้าคิดอยู่ในกรอบแบบนั้นอนาคตใหม่ก็ไม่ต้องมี พรรคก้าวไกลครั้งหน้าก็ไม่ต้องลงเลือกตั้ง นี่คือตรรกะที่มีปัญหามาก ด้วยความเคารพเลย ถ้าพูดกันแบบแฟร์ ๆ คิดว่า เราก็ไม่ได้คิดว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นตัวแทนเรา ไม่มีเหตุผลอะไรที่ราคิดว่าจะต้องไปช่วยกันดูนายชัชชาติ นี่คือพูดกันตรงไปตรงมา