ทอ. ยันเครื่องบินเมียนมา ยังไม่ล้ำแดนไทย เผยเฝ้าระวัง 50 ไมล์ไม่ใช่กฎตายตัว
ทอ. ยันเครื่องบินเมียนมา ยังไม่ได้ล้ำแดนไทย เผยเขตเฝ้าระวัง 50 ไมล์ไม่ใช่กฎตายตัว ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศ เมียนมา-ไทย เป็นมิตรที่ดี แจงดราม่าใช้เครื่องบินโปรยน้ำดับฝุ่นพีเอ็ม ยันพิจารณาทางเทคนิค อยุ่ในขั้นเตรียมพร้อมหากรัฐบาลสั่ง
24 ธ.ค.2564 พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงกรณีที่การสู้รบบริเวณชายแดนเมียนมาได้รับสัญญาณหรือการแจ้งเตือนการลุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทยหรือไม่ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้พบว่ามีเครื่องบิน หรือ อากาศยานที่มีเจตนารมณ์หรือเป้าหมายเข้ามาในประเทศไทย ยังคงประสานงานกับหน่วยป้องกันเฝ้าระวังในพื้นที่ตามปกติ
ยืนยันว่า รายงานล่าสุดก็ยังไม่มีบินล้ำเข้ามาในประเทศไทย ทั้งนี้ ภารกิจทอ.มีภาระหน้าที่ในการตรวจระบบเฝ้าระวังภัยทางอากาศ ป้องกันภัยคุกคามทั้งหมดของปะเทศ มีสถานีเรด้าร์รายงาน11 แห่งทั่วประเทศ
ในด้านตะวันตกนั้น กองทัพอากาศมีระบบเฝ้าตรวจ เฝ้าระวัง ค้นหาพิสูจน์ และดำเนินการตามกระบวนการตลอด 24 ชม.
“ ระบบป้องกันภัยทางอากาศของประเทศไทย มีความพร้อม และเราเห็นภาพที่ต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งการให้ข้อมูลในลักษณะที่เป็นภาพ ไม่สามารถให้ได้ เพราะจะเกิดผลกระทบทั้งสองฝ่าย จะเป็นการชี้เป้าไปในทางที่ไม่เกิดประโยชน์กับไทย เขาไม่มีเจตนาลุกล้ำเข้ามา และเป็นเรื่องภายในประเทศเพื่อนของเรา เขาเป็นมิตรที่ดีกับเรา"
ทั้งนี้ได้มีการประสานงานกันตลอด ตัวเลขเขตเฝ้าระวังเข้มข้น50ไมล์นั้นก็ไม่ได้เป็นกฎตายตัว เป็นเรื่องลักษณะทางภูมิประเทศ การเฝ้าระวังทางอากาศต้องดูเจตนาว่าเราตั้งใจที่จะพุ่งเข้ามาสู่เป้าหมายอะไรหรือไม่อย่างไร เราก็พิสูจน์ฝ่าย หากเครื่องบินนั้นมีการส่งแผนการบินที่ชัดเจนเราก็เฝ้าระวังและเฝ้าดูไม่ให้กระทบต่อแนวชายแดยของไทย เขาก็ปฏิบัติภารกิจในแนวชายแดนของเขา
โฆษกกองทัพอากาศ ยืนยันว่า มาตรการใช้เครื่องบินโปรยน้ำลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก ตามที่ ผบ.ทอ.ได้ให้ไปสัมภาษณ์ไปนั้น ทอ.ก็รอดูว่ารัฐบาลต้องการสนับสนุนหรือไม่อย่างไร ในทางเทคนิค เราก็พยายามระมัดระวังว่าจะเกิดประโยชน์มากน้อยแคไหน อย่างไรก็ตาม เราเตรียมพร้อมตลอดในการสนับสนุนรัฐบาล ส่วนที่มีการมองว่าเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนและแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุดนั้น โฆษกฯ ทอ. ยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการสั่งการ การที่ ผบ.ทอ.ตอบคำถามสื่อคือการเตรียมพร้อม ในการบรรเทาปัญหาหากรัฐบาลสั่งการ