"ก้าวไกล" ถอย แก้ "2พ.ร.ป." ปรับปรุงประเด็นการเงิน หวั่น "นายกฯ" ไม่รับรอง
ธีรัจชัย เผย พรรคขอ 2ร่างพ.ร.ป. คืนจากรัฐสภา แก้ไข เนื้อหาที่เกี่ยวกับการเงิน ตามสภาฯ แนะนำ หวั่น "นายกฯ"ใช้อำนาจไม่รับรอง-ตกขบวนการพิจารณา
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่าหลังจากที่ ส.ส.ของพรรคก้าวไกล เข้าชื่อเพื่อยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.ป.) ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการรเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ.. และ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรคการเมือง (ฉบับที่...) พ.ศ... ต่อตัวแทนของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เมื่อ 24 ธันวาคม 2564 ทางพรรคได้ขอถอนร่างพ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข หลังจากที่ฝ่ายสภาฯให้คำแนะนำว่า ควรแก้ไขในประเด็นที่มีสาระที่เกี่ยวกับการเงิน เช่น การกู้เงินจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง ในร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เพื่อไม่ให้เป็นประเด็นที่นายกรัฐมนตรีใช้ดุลยพินิจ ไม่รับรองร่างพ.ร.ป.ฉบับดังกล่าว และทำให้ต้องตกขบวนที่นำเสนอร่างกฎหมายเข้าประกบการพิจารณาของรัฐสภา
นายธีรัจชัย กล่าวด้วยว่านอกจากนั้นยังได้แก้ไขเกี่ยวกับการหาทุนของพรรคการเมืองที่เปิดโอกาสให้หาทุนเองได้ และไม่มีข้อบังคับหยุมหยิม เช่น การออกใบเสร็จ สำหรับผู้บริจาค1แสนบาทขึ้นไปเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวจากเดิมที่กำหนดเงินบริจาคที่ต้องมีใบเสร็จ 5,000 บาท เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้พรรคการเมืองเติบโตได้ด้วยประชาชนและความนิยมของประชาชน
นายธีรัจชัย กล่าวด้วยว่าส่วนประเด็นการตัดอำนาจยุบพรรคการเมืองของศาลรัฐธรรมนูญ ยืนยันต้องแก้ไข เพื่อให้พรรคการรเมืองเติบโตเป็นธรรมชาติ มีความเข้มแข็ง โดยการเลิกพรรคการเมือง หรือสิ้นสภาพพรรคการเมือง สามารถทำได้ตามเงื่อนไข ไม่แก้ไขข้อบังคับให้ถูกต้อง,ไม่มีการประชุมใหญ่หรือทำกิจกรรมติดต่อ 2 ปี, มีหนี้สินล้นพ้นตัว เป็นต้น เป้าหมายเพื่อให้พรรคการเมืองมีการเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ
นายธีรัจชัย กล่าวด้วยว่าส่วนที่ปรับปรุงเพิ่มเติม คือ การเพิ่มโทษผู้จัดการเลือกตั้ง และกรรมการเลือกตั้ง ที่พยายามกระทำเพื่อช่วยเหลือกลั่นแกล้งผู้สมัคร รวมถึงการครอบครอง หรือเก็บบัตรเลือกตั้งไว้ ซึ่งจะแก้ไขกรณีการทุจริตเลือกตั้ง เช่น การนำบัตรเลือกตั้งไปกาล่วงหน้า เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีคนมองว่ากรณีการตัดอำนาจยุบพรรคการเมืองโดยศาลรัฐธรรมนูญ อาจทำให้รัฐสภาคว่ำในวาระแรกได้ นายธีรัจชัย กล่าวว่า ไม่เป็นไร แต่พรคก้าวไกลต้องการปักหมุดความคิด เพราะอำนาจประชาธิปไตยนั้น อำนาจประชาชนใหญ่ที่สุด ดังนั้นการขัดขวางไม่ให้พรรคการเมืองเติบโต จากการใช้ดุลยพินิจของกลุ่มบุคคล ที่แม้มาตามรัฐธรรมนูญ 2560 แต่ปฏิเสธออกจากความเชื่อมโยงกับคสช. ไม่ได้ ทำให้หลายฝ่ายไม่สบายใจ
"พรรคการเมืองควรเติบโตไม่ถูกขัดขวาง จากการตัดสินโดยดุลยพินิจกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ผมยองรับว่าการตัดอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้ยุบพรรค เป็นประเด็นแหลมคม แม้ไม่สามารถเอาชนะกลไกอื่นๆ ได้ แต่ต้องสู้ ให้ประชาชนได้เห็น โดยเรื่องนี้คนไม่กล้าพูด แต่พรรคเราต้องพูด เพื่อยืนยีนว่าประชาธิปไตยต้องมาจากกประชาชนแท้จริงไม่ใช่บังคับตามกฎหมาย และตัดขากัน ผ่านดุลยพินิจของคนบางกลุ่ม” นายธีรัจชัย กล่าว
นายธีรัจชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับการแก้ไขปรับปรุงร่างพ.ร.ป. ทั้ง 2 ฉบับนั้นขณะนี้แล้วเสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อเพื่อยื่นต่อประธานรัฐสภา เบื้องต้นคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ในช่วงบ่ายวันนี้ (10 มกราคม) และพร้อมยื่นเสนอต่อรัฐสภาต่อไป.