"เฉลิมชัย" นำทัพย้ำสงขลา อย่าเลือกผิดคน ต้อง "น้ำหอม" เบอร์ 1
“เฉลิมชัย” นำทัพย้ำสงขลาอย่าเลือกผิด ให้เลือก “น้ำหอม” เบอร์ 1 คนเป็นผู้แทน เงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีจิตสำนึกด้วย
15 ม.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อ14 ม.ค. 2565 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นกล่าวปราศรัยใหญ่ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา เขต 6 พรรคประชาธิปัตย์ ที่ เวทีปราศรัยสนาม รร.บ้านคลองแงะ ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา โดยมีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยระบุว่า
การเลือกผู้แทนเป็นจุดเริ่มต้นของการเมือง เป็นจุดเริ่มต้นที่จะร่วมกันพัฒนาประเทศพาประเทศเดินไปข้างหน้า การเลือกผู้แทนผิด 1 ครั้ง กว่าจะตัดสินใจอีกครั้งจะต้องใช้เวลา 4 ปี การเลือกวันที่ 16 นี้ถ้าเลือกผิด 1 ครั้งต้องรออีกปีเศษๆ ถ้าไม่อยากตัดสินใจผิดขอให้เลือก “น้ำหอม” เบอร์ 1 เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ นายเฉลิมชัย ยังกล่าวอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ตั้งมา 76 ปี มีทั้งชาวนา ชาวไร่ เศรษฐี แต่ไม่เคยบอกว่าพี่น้องประชาชนจะต้องเลือกเฉพาะคนรวย คนมีชาติตระกูล วันที่ตนขึ้นเวทีปราศรัยสงขลาครั้งแรก เป็นการเลือกตั้ง นายก. อบจ. นายนิพนธ์ บุญญามณีในวันนั้น จนกระทั่งมาวันนี้มาขึ้นเวทีปราศรัยอีกครั้งในสถานะของเลขาธิการพรรคครั้งที่ 2 วันนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อตนเป็นเลขาธิการพรรค เป็นผู้บริหารพรรค ตนไม่เอาเกณฑ์ชาติตระกูลกับเงินเป็นตัวตั้ง
เพราะคิดว่าผู้แทนของพี่น้องประชาชนจะต้องมีมากกว่านี้ อย่างน้อยที่สุดจะต้องมีจิตสำนึกทางการเมือง มารยาทไม่ต้องพูดถึงไม่พอแล้ว ยุคนี้ต้องมีจิตวิญญาณทางการเมือง มีจิตวิญญาณของคนเป็นผู้แทน ไม่ใช่มีเงิน แต่คนมีเงินไม่ได้ผิด คนมีชาติตระกูลไม่ได้ผิด แต่ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นผู้แทนได้ เพราะผู้แทนต้องมาอยู่กับพี่น้องประชาชนมารับรู้ทุกข์และสุขกับท่าน เพราะฉะนั้นเงินอย่างเดียวไม่พอมันต้องมีใจ มีความรู้สึก มีจิตสำนึกด้วย
“มีบางคนบอกว่าวันนี้คนใต้เบื่อประชาธิปัตย์ ผู้แทนไม่ค่อยลงพื้นที่ ส.ส.ไม่อยู่กับพี่น้องประชาชน วันที่ผมเป็นเลขาธิการพรรคคนที่ไม่เอาพี่น้องประชาชน คนที่ทิ้งพื้นที่ อย่าว่าแต่เป็น ส.ส.เลย เป็นผู้สมัครผมก็ไม่ให้เป็น มันไม่ผ่านคุณสมบัติตั้งแต่ครั้งแรกเพราะฉะนั้นคนที่จะเป็นผู้แทนต้องอยู่กับพี่น้องประชาชนทุกข์สุขต้องอยู่กับท่าน ไม่ใช่ทุกข์ท่านเอาไป สุขเราเอามาอย่างนี้คบไม่ได้” นายเฉลิมชัย กล่าว
พร้อมกับเพิ่มเติมอีกว่า ที่จำเป็นต้องพูดเรื่องนี้เพราะฟังมาหลายฝ่าย มีนักวิชาการบอกว่าเป็นตรรกะวิบัติจะทำให้การเมืองเสื่อมเสียและเลวร้ายลง ดังนั้นวันนี้เมื่อตนเป็นนักการเมือง จึงก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นอย่างนั้นพี่น้องชาวสงขลาต้องช่วย อย่าให้สิ่งนี้เกิดขึ้น
นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ไม่มีเสียงไหนที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าเสียงของพี่น้องประชาชนและวันนี้เสียงของพี่น้องชาวอำเภอสะเดาหาดใหญ่ คลองหอยโข่ง เป็นเสียงที่จะชี้อนาคตของประเทศไทยว่าการเมืองเราจะเดินไปแบบไหนในวันข้างหน้า ขอให้มาช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์สร้าง ส.ส.หญิงคนแรกของจังหวัดสงขลา และมาช่วยเปลี่ยนประชาธิปัตย์ นำพาประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้าเพื่อไปดูแลพี่น้องชาวใต้ทั้ง 14 จังหวัดต่อไป
นักการเมืองเวลาหาเสียงเลือกตั้ง ทุกพรรคจะกำหนดนโยบายออกมาว่าจะทำอะไรบ้าง จะทำอย่างไรให้พี่น้องประชาชน จริงบ้างมั่วบ้างไปตามสภาพ แต่วันนี้เพื่อพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล วันที่เราลงรับสมัครเลือกตั้งปี 62 เรามีนโยบายเพื่อดูแลพี่น้องเกษตรกรโดยประกาศให้พี่น้องทั้งประเทศรับรู้ว่าถ้าเราเป็นรัฐบาลเราจะทำโครงการประกันรายได้เกษตรกรนี่คือสัญญาที่เราให้ไว้ในปี 2562 แต่ในปี 2562 มีใครเคยคิดไหมว่าจะมีโควิด ไม่มีใครรู้หรอกว่าปี 63 พวกเราจะเจอวิกฤตโควิดด้วยกันทั้งหมด เมื่อไม่มีใครรู้มันจะมีเทวดาที่ไหนมากำหนดนโยบายล่วงหน้าได้
“ผมกล้าพูดเพราะว่าผมเข้าร่วมรัฐบาลในวันที่ผมเป็นเลขาธิการพรรค ผมไปเจรจาด้วยตัวเองและนโยบายประกันรายได้พี่น้องเกษตรกรเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลนั้น ถึงไม่มีโควิดแต่ประกันรายได้ก็เกิดขึ้นแน่นอน” นายเฉลิมชัยกล่าว
พร้อมกับเพิ่มเติมว่า การที่มีบางพรรคการเมืองบอกว่าโครงการคนละครึ่ง เราชนะอะไรต่างๆ นั้นเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วย แต่โครงการเหล่านี้เป็นโครงการที่ ครม.อนุมัติ ด้วยความเคารพท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านพูดในที่ประชุม ครม. ตลอดว่านี่คือความรับผิดชอบของพวกเราทั้งหมด
“ความรับผิดคือถ้าผิดพลาดทุกคนต้องรับทั้งหมด ความรับชอบถ้ามันเกิดผลเป็นประโยชน์พี่น้องประชาชน ส่วนของการตัดสินใจของ ครม.ทั้งหมด แต่ผมไม่กล้าใช้เพราะวันนี้บังเอิญเรามาแข่งกับพรรคร่วมด้วยกัน ผมละอายใจถ้าจะใช้ ไม่กล้า ทั้งๆที่โครงการเหล่านี้ ท่านนิพนธ์ ก็ผ่าน มาผม ท่านจุรินทร์ รัฐมนตรีของพรรคที่อยู่ใน ครม.อนุมัติให้ผ่านมาด้วยกันทั้งหมด ผมเชื่อว่าวันนึงท่านนายกรัฐมนตรีจะมาเยือนสงขลา ผมรบกวนฝากพี่น้องถามนายกว่า โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะหรืออะไรก็ตาม ที่ออกมาแก้ปัญหาโควิดเป็นผลงานของรัฐบาล หรือของพรรคใดพรรคหนึ่ง ท่านช่วยถามแทนผมที เผื่อจะได้คำตอบที่ชัดเจนว่าท่านนายกจะตอบว่าอย่างไร ผมยืนยันว่าประกันรายได้ก็เป็นโครงการที่ ครม.อนุมัติเช่นเดียวกัน เพียงแต่ต่างกันตรงที่ประกันรายได้เป็นนโยบายที่ประชาธิปัตย์ยื่นเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลและแถลงไว้กับรัฐสภาเพราะฉะนั้นเป็นความชอบธรรมและไม่อยากเล่นการเมืองแบบน้ำเน่า” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ตนต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นที่จังหวัดสงขลา อยากให้ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่าประชาธิปัตย์มาสร้างจุดเริ่มต้นที่จังหวัดสงขลาและอยากให้จังหวัดสงขลาเป็นเมืองหลวงของประชาธิปัตย์จังหวัดหนึ่ง ซึ่งสิ่งเดียวที่เราสามารถทำได้นั่นคือวันที่ 16 ไปเลือกเบอร์ 1 “น้ำหอม” สุภาพร กำเนิดผล เพื่อจะเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ให้ประชาธิปัตย์กลับมาอีกครั้ง และวันที่ตนเป็นผู้บริหารพรรคจะไม่มี ส.ส.คนไหนทิ้งพี่น้องประชาชนอย่างเด็ดขาด