ชัยชนะ “ฝ่ายประชาธิปไตย” “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ได้ที ขยี้ “รัฐบาล”

ชัยชนะ “ฝ่ายประชาธิปไตย”  “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ได้ที ขยี้ “รัฐบาล”

ผลการเลือกตั้งซ่อม รอบล่าสุด ที่ชัยชนะ ตกเป็นของฝ่ายประชาธิปไตย แน่นอนว่า การเติมเสียงให้ฝ่ายค้านในสภาฯ เพียง 1 เสียง ย่อมสร้างความได้เปรียบมาก โดยเฉพาะการใช้เกมนับองค์ประชุม

ชัยชนะ “ฝ่ายประชาธิปไตย”  “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ได้ที ขยี้ “รัฐบาล”          ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผลของการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต9 หลักสี่-จตุจักร (บางส่วน) ที่ชัยชนะตกเป็นของ “ฝ่ายประชาธิปไตย” เบอร์ที่เข้าวิน คือ “สุรชาติ เทียนทอง” คนของเพื่อไทย อันดับรอง คือ “กรุณพล เทียนสุวรรณ” คนของก้าวไกล ส่งผลสะท้าน สะเทือนกับเวทีการเมืองของ “รัฐบาล” เป็นอย่างยิ่ง

 

 

         แม้ 1 เสียง ที่เติมให้ขั้วพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในสภาฯ จะทำให้มียอด 208 เสียง ยังห่างจากขั้วรัฐบาล 37 เสียง จากจำนวน ส.ส.ขั้วรัฐบาลที่มี  245 เสียง (ไม่นับรวมกลุ่ม 20 ส.ส. จากกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า)

 

         แต่สถานการณ์ในสภาฯ ที่ผ่านมา เห็นชัดว่า “ฝ่ายค้าน” เป็นผู้ได้เปรียบในเกมนับองค์ประชุม 

 

 

         ปัจจุบัน มีส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ทั้งสิ้น 475 คน องค์ประชุม  ต้องเกินกึ่งหนึ่ง คือ 238 คน

 

         แม้ “พลพรรครัฐบาล” จะมีเสียงเกินองค์ประชุม แต่เป็นจำนวนเกินที่น้อยนิดคือ 7 เสียง ในสถานการณ์ที่ “ส.ส.” ติดโควิด-19 ต้องกักตัว ต้องลาประชุมคือ เป็นจุดหายนะ ของ “ฝั่งรัฐบาล” ที่ 100% จะพลาดท่า เสียที  เกมในสภาฯ ให้กับพรรคฝ่ายค้าน

 

         เชื่อแน่ว่า “พรรคฝ่ายค้าน” จะใช้นาทีทอง มือกำลังขึ้น จากผลเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 ขยี้ “รัฐบาล” ผ่านเกมในสภาฯ แบบไม่ลดราวาศอก เพื่อเขย่าความศรัทธาของ “รัฐบาล” 

         รวมถึงใช้จังหวะนี้ เป็นเกมต่อรอง “สร้างผลงานการเมือง” ผ่านเวทีของสภาฯ ในการอภิปรายในวาระต่างๆ  โดยเฉพาะร่างกฎหมาย และญัตติ ที่สามารถใช้สร้างเครดิต โกยแต้ม คะแนนความนิยมในการเลือกตั้งที่จะมาถึง

 

         และสิ่งที่ต้องจับตาคือ การอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ที่ “ฝ่ายค้าน” เตรียมเปิดเกมบุก รุกไล่ “พล.อ.ประยุทธ์” ในจังหวะที่คะแนนนิยมรัฐบาลอยู่ในภาวะขาลง

 

         ทว่า “ฝ่ายรัฐบาล” คงเตรียมตั้งรับ โดยเฉพาะ “เกมองค์ประชุม”  ไม่ยอมให้เป็น “ไม้เด็ด” ตีรวน หรือเขย่าศรัทธารัฐบาลได้ง่าย

 

         โดยเฉพาะ “กลุ่มวิปรัฐบาล” ที่ต้องบริหารจัดการ และคุมสถานการณ์ให้ดี

ชัยชนะ “ฝ่ายประชาธิปไตย”  “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ได้ที ขยี้ “รัฐบาล”

         เพราะหากปล่อยให้ประชุมล่มซ้ำซาก หรือทุกสัปดาห์ การทำงาน ของฝ่ายนิติบัญญัติที่เป็น 1 ใน 3 องค์อำนาจประชาธิปไตย จะถือว่าล้มเหลว และเดินหน้าต่อไปไม่ได้ กระแสกดดันให้ “ยุบสภา” คืนอำนาจประชาชน ตามที่ “ฝ่ายค้าน” เรียกร้อง จะมี "ความชอบธรรมในขีดสุด"

         เมื่อนาทีนั้นมาถึง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ยากจะปฏิเสธความรับผิดชอบ เพราะอย่าลืมว่า ที่มาของ “พล.อ.ประยุทธ์”  ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ฐานรากคือ “ฝ่ายนิติบัญญัติ” 

ชัยชนะ “ฝ่ายประชาธิปไตย”  “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ได้ที ขยี้ “รัฐบาล”

         หากกลไกของ “สภาหินอ่อน” เดินต่อไม่ได้ งานกฎหมายไม่คืบหน้า โดยเฉพาะกฎหมายที่มีความจำเป็น กฎหมายพิเศษของรัฐบาล “รัฐบาล” ที่คิดว่าตัวเองแน่และเอาอยู่

 

         สภาพที่เป็น ไม่ต่างอะไรกับ “เสียงข้างมาก ที่เป็นผู้แพ้"

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์