“กลุ่ม 16” ไว้ทำความดีไม่ใช่ต่อรอง! “เต้” เตือนนายกฯระวังโดนล้วงคองูเห่า
“พิเชษฐ” ยันตั้ง “กลุ่ม 16” ไม่ได้ใช้ต่อรองการเมือง แต่เพื่อทำความดี เผยตอนนี้มี ส.ส.ร่วม 10 คนแล้ว “เต้ มงคลกิตติ์” ไม่หวั่นมีหลายคนปฏิเสธ เผยเตรียมดำเนินคดีแน่หาก ครม.อนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เตือนนายกฯระวังโดนล้วงคองูเห่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2565 กลุ่ม ส.ส.พรรคเล็กจำนวนหนึ่ง ที่เรียกตัวเองว่า “กลุ่ม 16” นำโดยนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. พรรคไทยศรีวิไลย์ และนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส. พรรคไทยรักธรรม ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจโควิดเชิงรุกด้วย ATK ให้ ชาวชุมชน เคหะทุ่งสองห้อง จำนวน 1,000 ชุด เขต หลักสี่ กรุงเทพมหานคร หลังประสาน หน่วยงานในพื้นที่มาจัดตรวจให้ประชาชน เนื่องจากมีความห่วงใยประชาชนเพราะหลายคนยังไม่ได้รับการตรวจค้นหาเชื้อในช่วงสถานการณ์โควิดแพร่ระบาด
นายพิเชษฐ กล่าวว่า กลุ่ม16 ไม่ได้หมายความว่ามี ส.ส.16 คน แต่หมายถึง บุคคลที่ทำความมีและประสบความสำเร็จในอดีต เรื่อง สปก.4-01 แจกที่ดินให้คนรวย ทำให้พรรคการเมืองประกาศถอนตัว จึงรวมตัวตั้งกลุ่ม16 วางเป้าหมายทำความดีอะไรที่รัฐบาลทำไม่ถูกต้องก็ทักท้วง หากทำดีก็จะสนับสนุน แต่มีการตีความจำนวน และใครจะถอนตัวไม่สำคัญ เพราะกลุ่มมีเป็นสิบคน แต่มีคนขอยังไม่เปิดเผยชื่อ มีทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาล หวังตั้งกลุ่มทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และกลุ่มเกิดจากการพลักดัน พรบ.บำนาญผู้สูงอายุแห่งชาติ
นายพิเชษฐ กล่าวอีกว่า ขอปฏิเสธข้อสังเกตการตั้งกลุ่มเพื่อต่อรองทางการเมือง แต่เป็นการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลแทนประชาชน ที่รัฐบาลเหลือเวลา 1 ปี และไม่จำเป็นต้องขออนุญาติ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะมาทำความดีไม่ได้ทำผิดอะไร และทิศทางการโหวตของกลุ่ม16 จะใช้ดุลพินิจในการโหวตตามระบบประชาธิปไตย คานอำนาจในการทำงานนิติบัญญัติ ยืนยันจะทำงานในนามกลุ่ม16 ต่อไปไม่มียุติ ส่วนจะรวมตัวตั้งพรรคการเมืองหรือไม่เป็นเรื่องในอนาคต ตอนนี้ยืนยันกลุ่ม 16 มี 10 คนแล้ว
ส่วนนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า กลุ่ม 16 จะจับตาดูมติ ครม. เรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวในวันอังคารนี้ ที่รัฐมนตรีภูมิใจไทยทั้ง 7 คน แสดงเจตนาชัดเจนว่าจะคัดค้าน โดยทางกลุ่ม 16 จะดำเนินคดีกับนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกคนที่เกี่ยวข้อง และในวันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ จะเดินทางไปลงบันทึกประจำวันให้กองปราบปรามรับทราบว่าเตรียมดำเนินคดีกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่กำลังจะต่อสัมปทานตามเงื่อนไขเดิม โดยจะดำเนินการใน 2 แนวทาง หากนายกฯ และ ครม.บางส่วนอนุมัติเกินกึ่งหนึ่ง จะดำเนินคดี ในกองปราบปราม และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกส่วนคือยื่นศาลปกครอง เพิกถอนมติ ครม. และดำเนินคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ดังนั้นหากนายกฯ และ ครม. คิดว่าไม่ผิดก็ลองวัดกันดู
นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า คนที่เป็นนายกฯรัฐมนตรีหลายคนเคยติดคุกมาแล้ว บางคนยังอยู่ระหว่างหลบหนี จึงไม่ได้หมายความว่านายกฯที่มาจากทหารจะติดคุกไม่ได้ ยืนยันว่ากลุ่ม 16 จะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีอีก 2 เรื่องที่กลุ่ม 16 เสนอ คือการจัดซื้อจัดจ้างวิทยุสื่อสารของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีข้อกล่าวหาว่าไม่ถูกต้องหลายจุด และกรณีที่สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมของกระทรวงอุตสาหกรรมออก มาตรฐาน มอก.ให้กับร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ ซึ่งเข้าข่ายเลือกปฏิบัติหรือไม่เพราะอาจส่งผลกระทบกับผู้ค้ารายย่อย การกระทำดังกล่าวเป็นการเพื่อประโยชน์ให้นายทุนหรือไม่ รวมถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรณี ศูนย์ CI ของกระทรวงแรงงาน ที่ร่วมมือกับทางการเมียนมาร์และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่มีข้อมูลว่าอาจมีการเรียกเก็บเกินกว่าที่ราชการกำหนด ซึ่งหากมีข้อมูลพอเพียงก็อาจนำเข้าสู่การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ในวันที่ 17-18 กุมภาพันธ์นี้ และหากมีข้อมูลมากขึ้นก็อาจจะยื่นปปช.ต่อไป
นายมงคลกิตติ์ กล่าวด้วยว่า กรณีที่ ส.ส. หลายคนออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมกลุ่ม 16 ไม่ได้ทำให้ตนขาดความมั่นใจ พร้อมระบุว่าคนที่ปฏิเสธ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ใช่สมาชิกของกลุ่ม แม้ต่อหน้าสื่อมวลชนอาจบอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่อาจให้ความร่วมมือในภายหลัง เป็นเพียงการแถลงข่าวเพื่อให้นายกรัฐมนตรีสบายใจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคนที่แถลงข่าวของนายกฯ 100% อาจเป็นใส้ศึกหรือไม่ ดังนั้นต้องระวังโดนล้วงคองูเห่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ กลุ่ม 16 มีการดำเนินยุทธศาสตร์กับรัฐบาลชุดนี้อย่างไรก็ได้ อาจจะส่งไปเพียงคนเดียว หรือหลายคน หรือเมื่อถึงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มอาจจะมากกว่า 20 คนก็ได้