เบรกหัวทิ่ม "ส.ว." ยุติแก้ข้อบังคับให้ "ประชุมออนไลน์" กลางคัน หวั่นขัดรธน.

           ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ในวาระพิจารณาเรื่องด่วน ร่างข้อบังคับวุฒิสภา (ฉบับที่...) พ.ศ.... ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว. ประธานกมธ.ฯ พิจารณาแล้วเสร็จ 

 

           โดยเนื้อหาที่กมธ.แก้ไข มีสาระสำคัญ คือ ให้การประชุมวุฒิสภา สามารถทำผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ เมื่อมีเหตุสุดวิสัย หรือมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถจัดประชุมวุฒิสภาได้ ทั้งนี้สมาชิกที่เข้าประชุมจะประชุมผ่านออนไลน์บางสื่อ หรือทั้งหมดก็ได้ ทั้งนี้ได้เปิดช่องให้การประชุมร่างกฎหมายยหรือร่างข้อบังคับ หรือพระราชกำหนด ,​การพิจารณาให้บุคคลดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ, เห็นชอบให้บุคคลพ้นตำแหน่ง , พิจารณารัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับ ที่วุฒิสภามีมติให้กระทำเป็นการลับ สามารถประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้หากมีระบบควบคุมการประชุมที่มีความมั่นคงปลอดภัยเพียงพอ และเป็นกรณีที่ประธานวุฒิสภาเห็นสมควรตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิสภา

 

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้พิจารณาไปเพียงประเด็นเดียว คือ การเปิดช่องให้ประชุมวุฒิสภาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และยังไม่มีการลงมติหรือขอความเห็นชอบใดๆ ต้องพักการประชุมเกือบ 1 ชั่วโมง และสุดท้ายต้องเลื่อนการพิจารณา ร่างข้อบังคับวุฒิสภา (ฉบับที่...) พ.ศ... ออกไป หลังจากถูกส.ว. อภิปรายท้วงติงว่าการกำหนดข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ดังกล่าวอาจขัดกับรัฐธรรมนูญ และมีผู้กล่าวหาไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้

           โดยนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. เป็นผู้อภิปรายคัดค้านและไม่เห็นด้วยเพราะกังวลว่าจะเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญได้ เพราะส.ว.พิจารณาเรื่องที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ดีในช่วงหนึ่ง นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ฐานะกมธ.ฯ ชี้แจงว่า ไม่เฉพาะส.ว.ที่จะแก้ไขข้อบังคับการประชุมเท่านั้น แต่ฝั่งสภาฯ อยู่ระหว่างแก้ไขเช่นเดียวกัน โดยนายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสภาฯ ได้สนับสนุนในการแก้ไขข้อบังคับ และเห็นว่าจะเสนอให้แก้ไขข้อบังคับการประชุมรัฐสภาด้วย

 

           ทำให้ นายเสรี โต้แย้งว่านายอนันต์ไม่ใช่นักกฎหมายแม้เคยเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ และตนทราบว่ามีส.ว. บางคนไปเสนอเรื่องดังกล่าวให้นายอนันต์ แต่เมื่อตนได้หารือกับนายอนันต์ภายหลังและระบุว่าจะขัดกับรัฐธรรมนูญ ทำให้นายอนันต์ตกใจ และระบุว่าไม่ทราบมาก่อน

 

           จากนั้น นายสมชาย ชี้แจงต่อว่าก่อนหน้านี้สภาฯ เคยรับหลักการร่างแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาฯ รวม 5 ฉบับ จาก7 ฉบับที่เสนอ ต่อสภาฯ เห็นว่าสภาฯ ได้เห็นความสำคัญที่ต้องปรับแก้ไขข้อบังคับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันเช่นกัน

 

           ทำให้นายเสรี ลุกขึ้นอีกครั้ง พร้อมเสนอให้เลื่อนการพิจารณาออกไปก่อนเพราะไม่ใช่เรื่องด่วน อีกทั้งควรรอให้ส.ส.ดำเนินการแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาให้แล้วเสร็จก่อน

 

           ทำให้พล.อ.สิงห์ศึก ต้องขอพักการประชุมเพื่อ ให้ส.ว.ที่เห็นแย้งกันได้หารือถึงทางออก และเมื่อพักประชุม รวม 57 นาที พล.อ.สิงห์ศึก แจ้งว่า จากการหารือระหว่างสมาชิก ประธานและรองประธานแล้ว เมื่อหารือแล้ว ให้เลื่อนออกไปก่อน ดังนั้นเพื่อให้เกิดความรอบคอบในการพิจารณา ตนขอปรึกษาที่ประชุมให้เลื่อนพิจารณาข้อบังคับออกไปก่อน จะมีส.ว.ขัดข้องหรือมีความเห็นอย่างอื่นหรือไม่ ทั้งนี้ไม่มีส.ว.คนใดเห็นแย้ง ทำให้ที่ประชุมเห็นชอบให้เลื่อนพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมวุฒิสภาไปก่อน

 

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถือเป็นครั้งแรกของที่ประชุมวุฒิสภาที่ต้องยุติเรื่องที่พิจารณาไว้กลางคัน ทั้งที่เข้าสู่ระเบียบวาระและเนื้อหาแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากมีความเห็นไม่ตรงกันของส.ว. ฝั่งที่เป็นกลุ่มนำและขับเคลื่อนงานของวุฒิสภา.