"ดร.เอ้" ลั่น แก้น้ำทะเลหนุนสูงฝั่งธนฯให้จบ หากได้เป็น ผู้ว่าฯ กทม.

16 ก.พ.2565 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม. พรรคประชาธิปัตย์  ลงพื้นที่วัดหลวงพ่อเต่า เขตบางขุนเทียน พร้อมด้วย นายสารัช  ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางขุนเทียน และ นายณรงค์ศักดิ์  ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางบอน เพื่อร่วมทำบุญตักบาตรถวายสังฆทาน และร่วมฟังธรรมะเทศนา ในวันมาฆบูชา ประจำปี 2565

นายสุชัชวีร์ กล่าวตอนหนึ่งกับชาวบ้านและผู้สูงอายุที่มาทำบุญตักบาตรในศาลาวัด ว่า ตนอยากจะมาเป็นคนบางขุนเทียน อยากสร้างโรงพยาบาลบางขุนเทียนเพื่อผู้สูงอายโดยเฉพาะ สำหรับคนกรุงเทพฯคนสมุทรปราการ สมุทรสาคร และผู้ที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อให้เป็นโรงพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุที่สมบูรณ์แบบ 

อย่างไรก็ตาม หากวันนี้ไม่ทำอะไรบางขุนเทียนจะไม่อยู่ถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน เพราะบางขุนเทียนมีปัญหาน้ำทะเลหนุนสูง หากไม่มีวิธีป้องกัน ในอนาคตวัดตรงนี้จะกลายเป็นวัดกลางน้ำ หากตนเป็นผู้ว่าฯกทม.ตนจะรักษาพื้นที่บางขุนเทียน โดยสร้างคันกันน้ำทะเล เพื่อส่งต่อบางขุนเทียนให้ลูกหลานให้ได้ แต่หากได้ผู้ว่าฯกทม.ที่ไม่จริงจัง ไม่จริงใจก็ คงไม่มีพื้นที่บางขุนเทียนไว้ให้ลูกให้หลานดูอย่างแน่นอน 

พร้อมย้ำบางขุนเทียนเป็นพื้นที่ที่มีเสน่ห์ มีแต่ความรัก ความสามัคคี มีวัดวาอาราม หากคนกรุงเทพมีกิจกรรมการเข้าวัดบ่อยๆเช่นนี้จะดีมาก เพราะวันหยุดของคนกรุงเทพในเมืองส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ในห้างสรรพสินค้า ตนจึงมีแนวคิด อยากให้คนเขตอื่นๆ มางร้างเส้นทางเรือการท่องเที่ยว เส้นทางจักรยาน เชื่อมต่อกับเขตอื่น เพื่อเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และเป็นพื้นที่ที่มีโอกาสพัฒนาได้อีกมาก  อีกทั้งเมืองบางขุนเทียนจะต้องเป็นมรดกส่งต่อถ้าลูกหลาน

 

 

 

 

 

 

 

นายสุชัชวีร์ ให้สัมภาษณ์หลังลงพื้นที่ว่า  เขตบางขุนเทียนและเขตบางบอน ว่า หากได้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะแก้ปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่กรุงเทพมหานครในฝั่งธนฯให้จบ จะไม่ส่งมอบปัญหานี้ไปอย่างผู้ว่าราชการคนต่อไป ลูกหลานคนบางขุนเทียนจะต้องมีแผ่นดินอยู่ในอนาคต

ส่วนพื้นที่บางบอนพัฒนาไปมาก พร้อมกับปัญหาการจราจรที่ติดขัดทั้งทางที่ถนนเส้นหลักถนนเอกชัยถนนพระรามสอง เพราะมีการตัดถนนเชื่อมไม่เสร็จสักที จึงตั้งใจอยากทำถนนเชื่อมถนนเอกชัยไปยังพระรามสอง เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดตั้งแต่บางบอนหนองแขมและเข้าเมืองไปยังกรุงเทพมหานคร 

อย่างไรก็ตามยังพบปัญหาภายในซอยเอกชัย101 ที่มีบ้านเรือนติดสวนสาธารณะศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา (บางบอน)  แต่เข้าไม่ได้ นี่คือปัญหา ที่ทีมงานว่าที่สก.สข.ของพรรคประชาธิปัตย์จะเร่งแก้ปัญหาซ้ำซากตรงนี้ให้ได้

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ดร.เอ้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับสัมปทานรถไฟฟ้าสีเขียว และมีผลประโยชน์ทับซ้อนนั้น นายสุชัชวีร์ ชี้แจ้งว่า เป็นการกล่าวหากัน คณะกรรมการที่ถูกตั้งโดยม. 14  นั้น  เป็นรูปแบบคณะกรรมการ ตนเองเป็นเพียงหนึ่งในคณะกรรมการ ที่ต้องการให้ค่าโดยสารถูกที่สุดอยู่ที่ 20 ถึง 25 บาท

โดยส่วนตัวเคยเสนอไปว่าต้องคิดถึงความสามารถในการจ่ายเงินของประชาชนเป็นตัวตั้ง แต่จะเป็นอย่างนั้นได้รัฐบาลจะต้องมาโยนภาระกรุงเทพมหานคร และกรุงเทพมหานครจะไปโยนภาระให้กับภาคเอกชน สุดท้ายค่าโดยสารรถไฟฟ้าก็ไม่มีทางถูกลงได้ ตนยืนยันว่าสนับสนุนให้ราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าอยู่ที่ 20 ถึง 25 บาท

 

อย่างไรก็ตามหากจะให้ประชาชนสามารถขึ้นรถไฟฟ้าได้ทุกคน ต้องคิดจากค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งการนำเสนอของตนนั้นเป็นวิธีการที่เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 300 บาท ต้องคิดว่าอยากให้ประชาชนมาจ่ายเกิน 20% ดังนั้นค่าเดินทางไม่ควรเกิน 60 บาท ซึ่งมองว่าทำได้ รัฐบาลต้องรับภาระเสาตอม่อ ไม่ใช่โยนภาระให้ประชาชน เสมือนกับท่อประปาที่ผ่านหน้าบ้าน ประชาชนไม่ได้จ่ายค่าท่อประปาแต่จ่ายค่าน้ำประปา หากรัฐกลัดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกจุด สามารถทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าราคาอยู่ที่ 20 ถึง 25 บาทได้อย่างแน่นอน

 

ส่วนกรณีที่โพลสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยผลสำรวจของประชาชน ต่อว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ที่จะให้การสนับสนุน พบว่า อันดับ 1 เป็นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และตนเองเป็นลำดับสองนั้น นาย สุชัชวีร์กล่าวว่า ตอนนี้ต้องขยันลงพื้นที่ได้อย่างเดียว ที่ผ่านมาก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งไม่ใช่การลงพื้นที่หาเสียง แต่เป็นการลงพื้นที่เพื่อหาปัญหาอย่างแท้จริง ซึ่งต้องขอกำลังใจจากพี่น้องประชาชนทุกคนด้วย

นายสุชัชวีร์ ยังกล่าวว่า ตนไม่คิดที่จะฟ้องกลับบุคคลที่กล่าวหา หลังตนได้ไปแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช.  เพราะวันนี้อาสาออกมาเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ไม่อยากเห็นการเมืองแบบเดิม อยากเห็นการเมืองแบบสร้างสรรค์อยากเป็นตัวอย่างที่ดี พร้อทย้ำว่าขอกำลังใจจากพี่น้องประชาชน และขอความเป็นธรรมด้วย