"วราวุธ" จ่อสอบแม่บ้าน มัดยางปูนึ่ง คนละตัว ที่ "ส.ส.ก้าวไกล" มอบให้กินโชว์

"วราวุธ" จ่อสอบแม่บ้าน มัดยางปูนึ่ง คนละตัว ที่ "ส.ส.ก้าวไกล" มอบให้กินโชว์

"วาโย" ชี้ "วราวุธ" กินปู ระยอง คนละตัวที่ ส.ส.ก้าวไกล มอบให้ ห่วงสารเคมีทำลายน้ำมันรั่ว เกิดสารพิษตกค้าง ด้าน "วราวุธ"​แจงทันที ยอมรับมีพิษจะจะสลายเอง จ่อตั้งกรรมการสอบ แม่บ้าน นึ่งปูให้ทานคนละตัว

         นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายทั่วไป  เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติ  ในประเด็นการแก้ปัญหาโควิด-19 พร้อมตั้งคำถามไปยัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขต่อกรณีการนำเข้าวัคซีนซิโนแวค เพื่อฉีดให้เด็กอายุ 3 ปี ทั้งที่ทั่วโลกใช้วัคซีนไฟเซอร์ฝาส้มฉีดให้กับเด็ก อย่างไรก็ดีตนมองว่าเรื่องวัคซีนดังกล่าวอาจเป็นเค้กก้อนโต  เพราะมีเด็กช่วงอายุ 0-2 ปี จำนวน 9 ล้านคน หรือคิดเป็น 15% ของประชากรที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ขณะที่ องค์การอนามัยโลกและองค์การอาหารและยา (อย.) อนุมัติให้เด็ก อายุ 5 ปีขึ้นไป สามารถฉีดวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้ม 

 

 

        นพ.วาโย อภิปรายด้วยว่า มีความน่าสงสัยที่ นายอนุทินและนพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สนับสนุนให้ฉีดวัคซีนซิโนแวคกับเด็ก แม้ว่ายังไม่มีคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตายในเด็ก และผลการศึกษาของต่างประเทศไม่มีข้อมูล ดังนั้นต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงด้วย 

 

        “สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยปัจจุบันดูแล้วพอใช้ได้ แต่ข้อมูลที่แท้จริงใน 70% มีคนฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตาย 2 เข็มอยู่ 16.17% ทำให้ต่อกรกับสายพันธุ์เดลต้าและโอไมครอนได้เพียงกว่า 50%   ผมขอถามว่าทำไมตอนนี้วัคซีนซิโนแวคยังเหลือ หรือแอบสั่งมาเพิ่ม   เพราะวัคซีนเชื้อตายในผู้ใหญ่ข้อมูลถึงทางตันแล้วพบว่าใช้ไม่ได้  แต่มาผลักดันใช้ในเด็ก คนไทยเป็นหนูทดลองไม่พอ ท่านยังเอาลูกหลานมาเป็นหนูทดลองต่อผมขอส่งเสียงดังๆถึงหมอเด็กว่าถ้าไม่เห็นด้วยกับการกระทำแบบนี้ก็ต้องออกมา เหมือนกับที่ท่านเคยหยุดคนไข้มาไล่อะไรสักอย่าง เด็กไทยสูญเสียโอกาสหลายอย่าง” นพ.วาโย กล่าว 

 

 

        นพ.วาโย ได้อภิปรายถึงการแก้ปัญหาน้ำมันรั่ว ในพื้นที่ จ.ระยอง โดยตั้งคำถามไปยังนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวมล้อม ที่ให้ข้อมูลสับสนว่าปริมาณน้ำมันรั่วจำนวนเท่าใดกันแน่ อีกทั้งพบว่ามีการใช้สารเคมีเพื่อให้น้ำมันกระจายประมาณ 7 หมื่นลิตร ทั้งนี้บริษัทผู้ผลิตสารเคมีแนะนำการใช้สารเคมี 1 ต่อ 20 หรือ 1 ต่อ 30 เพื่อได้ผลลัพท์การบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพ เบื้องต้นได้อนุมัติให้ใช้สารเคมี 4 หมื่นลิตร ต่อมาอนุมัติเพิ่มเติมอีก 3.64 หมื่นลิตร จากนั้นอนุมัติเพิ่มอีก 9 พันลิตร ตนจึงตั้งคำถามว่าน้ำมันรั่วเท่าไหร่กันแน่ 

 

        "สุดท้ายน้ำมันก็เข้าสู่ชายฝั่งจนทำให้พี่น้องชาวประมงเจอสัตว์น้ำที่มีน้ำมันติดมาด้วย ซึ่งน.ส.เบญจา  แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หวังดีเอาปูมาให้มารัฐมนตรีกิน แต่ไม่ได้เอาน้ำจิ้มมา แต่นายวราวุธ ได้แขวะน.ส.เบญจาว่า ทำไมไม่เอาน้ำจิ้มมา และยังกินปูโชว์ว่าปลอดภัย แต่น.ส.เบญจา ได้ถ่ายรูปปูทุกตัวไว้ บอกว่า ลายปูและหนังยางที่รัดไว้ไม่เหมือนกัน ขนาดเรื่องปูยังเอาตัวอื่นมากินเลย” นพ.วาโย อภิปราย

        ทั้งนี้นายวราวุธ ใช้สิทธิ์ชี้แจงทันที ว่า การดำเนินการแก้ไขน้ำมันรั่วต่อการใช้สารเคมีจำนวนมากว่า เป็นสารเคมีระดับฟู๊ดเกรดที่สามารถย่อยสลายได้ ส่วนพิษของสารเคมี หรือ น้ำมันนั้น แน่นอนว่าจะทำให้เกิดมะเร็งทั้งสิ้น แต่ความเป็นพิษจะสลายหายไปตามขั้นตอน และธรรมชาติ ทั้งนี้การตั้งกระทู้ถามหรือซักถามได้ขออนุญาต หน่วยงานไหนหรือไม่ แต่กระทารวงทรัพย์ฯ มีหน้าที่เก็บกวาดปัญหา ไม่วิ่งหนี หรือปิดบัง ส่วนภาพน้ำมันที่ขึ้นหาดแม่รำพึงนั้น เกิดขึ้นแค่ 12 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะทหาร กรมควบคุมมลพิษ ได้ซับน้ำมัน ดูดออก สภาพหาดกลับมา 90% เศษน้ำมันที่เหลือ อยู่ในผิวทรายเท่านั้น

 

 

        “ส่วนที่ว่า มัดปูไม่เหมือน ผมอยากพูดถึงแก่น ไม่อยากพูดกระพี้ แต่จะสอบปากคำแม่บ้านที่กระทรวงให้ และอาจตั้งกรรมการสอบว่า เอาไปนึ่งอย่างไร แล้วมัดหนังสติ๊กทำไม่เหมือนเดิม” นายวราวุธ ชี้แจง.