5 องค์กรภาคประชาชนร้อง กมธ.ป.ป.ช.สอบ “3 ป.-บิ๊ก ตร.-กองทัพ” ปมค้ามนุษย์

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ที่รัฐสภา นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ในนามตัวแทน 5 องค์กรภาคประชาชนที่ประกอบด้วย ครป. สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CrcF) มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (HRDF) และมูลนิธิร่วมมิตรไทย-พม่า (มรพ.) ยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงการทุจริตประพฤติมิชอบและหามาตรการและปราบปรามกระบวนการค้ามนุษย์

นายเมธา กล่าวว่า สืบเนื่องจากการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ กรณีปัญหากระบวนการค้ามนุษย์ ทำให้ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ในฐานะหัวหน้าชุดทำคดีขบวนการค้าชาวโรฮีนจา ต้องลี้ภัยไปยังประเทศออสเตรเลีย และ พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ เสียชีวิตในเรือนจำ 5 องค์กรภาคประชาชนจึงขอให้ กมธ.ป.ป.ช. ดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้ และขอให้เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดโดยตรงตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีการสั่งย้าย พล.ต.ต.ปวีณ ไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

2.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในขณะนั้น

3.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย

4.พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ซึ่งเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ในขณะนั้น

5.พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.ในช่วงรอยต่อของการทำคดีขณะนั้น

6.พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย

7.ผู้บัญชาการทหารบก

8.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

9.แม่ทัพภาค 4

นายเมธา กล่าวอีกว่า  นอกจากนี้ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และขอผลชันสูตรอย่างเป็นทางการว่ากรณีที่ พล.ท.มนัส เสียชีวิตในเรือนจำจากเหตุหัวใจวายนั้น เป็นการตัดตอนคดีหรือไม่ รวมถึงพยานบุคคลโดยเฉพาะอย่างยิ่งนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นักโทษทางการเมืองขณะนั้น ที่ให้ข้อมูลว่าขณะต้องขังได้พูดคุยกับ พล.ท.มนัส ในเรือนจำ ซึ่ง พล.ท.มนัส ระบุว่าเคยได้รับคำสั่งให้นำกำลังทหารจำนวนหนึ่งไปอุ้ม พล.ต.ต.ปวีณ แต่ทำไม่สำเร็จ

ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เราจะดูข้อเท็จจริงเรื่องนี้ และเชิญบุคคลที่ผู้ร้องกล่าวถึง มาให้ปากคำเพื่อขอข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ส่วนกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษก กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร จะนำเรื่องนี้เข้า กมธ.การกฎหมายฯ ด้วยนั้น จะสามารถทำร่วมกันกับ กมธ.ชุดของตนได้ แต่ต้องดูว่ารายละเอียดเหมือนกันหรือไม่ ทั้งนี้ กมธ.การกฎหมาย มีหน้าที่เรื่องนโยบายด้านกฎหมายและด้านสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ กมธ.ป.ป.ช. มีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ