"สมคิด" ลั่น "เพื่อไทย" พร้อมสู้ กมธ.แก้กม.ลูก คาดมีเสียง "ปชป." หนุน
สมคิด มอง สาธิต นั่งปธ.กมธ.แก้กฎหมายลูก ไม่มีอำนาจชี้นำ เหตุต้องใช้เสียงกมธ.ตัดสิน ลั่น เพื่อไทย พร้อมสู้ มองอาจมีอุบัติเหตุการเมืองได้ ผู้มีอำนาจไม่พอใจ บัตร2ใบ
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) 2 ฉบับ รัฐสภา ให้สัมภาษณ์โดยเชื่อว่าการทำงานภายในกมธ.ฯ จะไม่มีปัญหา โดยการได้นายสาธิต ปิตะเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ และรมช.สาธารณสุข ทำหน้าที่ประธานกมธ.ฯ จะไม่มีผลหรืออิทธิพลชี้นำใด เนื่องจากตำแหน่งประธานกมธ. คือ ผู้กำกับและควบคุมการประชุมให้เรียบร้อย อย่างไรก็ดีเมื่อมีประเด็นที่จะชี้ขาดโดยการโหวต กมธ.ฯ ที่ทำหน้าที่จะเป็นผู้ตัดสิน
“คนที่เป็นประธานกมธ.ใช่ว่าจะกำหนดอะไก็ได้ เพราะร่างกฎหมายที่รับหลักการเข้าสู่ชั้นกรรมาธิการฯ มีหลักการกำหนดไว้ ดังนั้นจะหนีจากหลักการนั้นไม่ได้ อีกทั้งกมธ.ต้องรับฟังเสียงผู้แปรญัตติและกมธ.ที่เสนอความเห็นด้วย โดยส่วนตัวจะขอสงวนความเห็นไว้เพื่อนำไปอภิปรายในที่ประชุมร่วมรัฐสภาด้วย และพรรคเพื่อไทยพร้อมจะสู้ แม้จำนวนเสียงสู้ไม่ได้ แต่ต้องสู้” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวอีกว่า ประเด็นที่คาดว่าจะสู้กัน อาทิ การใช้หมายเลขผู้สมัคร ส.ส.ให้เป็นหมายเลขเดียวกันทั้ง ผู้สมัครแบบเขต และแบบบัญชีรายชื่อ หรือ เบอร์เดียวทั้งประเทศ แม้ร่างพ.ร.ป.ที่รับหลักการ ทั้ง 4 ฉบับ จะกำหนดให้เป็นคนละหมายเลข แต่จากอภิปรายในที่ประชุมรัฐสภา เช่น นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่อภิปรายว่าขอให้ใช้หลักการที่ง่ายๆ ดังนั้นเชื่อว่าแนวโน้มจะใช้เบอร์เดียวทั้งประเทศ ซึ่งการใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เคยระบุไว้ว่าทำให้มีบัตรเสียน้อย และประชาชนเข้าใจง่าย ไม่สับสน ซึ่งการใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศจะเป็นประโยชน์กับทุกพรรคการเมืองด้วย
“การกำหนดเบอร์เดียวกันทั้งประเทศ แน่นอนว่าพรรคใหญ่อาจได้เปรียบ เพราะมีฐานสมาชิกพรรคที่กว้าง แต่การกำหนดคนละหมายเลขสามารถทำได้เปรียบเช่นกัน ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยไม่วิตกกังวล เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทั้งการใช้เบอร์เดียวหาเสียง หรือคนละเบอร์ พรรคเพื่อไทยผ่านมาได้หมด” นายสมคิด กล่าว
เมื่อถามถึงมุมมองการทำงานของส.ว.ในชั้นกมธ. ต่อการเขียนกฎหมายลูก นายสมคิด กล่าวว่า ส.ว.ชุดปัจจุบันมาจากการแต่งตั้งของ คสช. ดังนั้นเปรียบเหมือนเป็นวัวคอกไหน ต้องเข้าคอกนั้น แม้ส.ว.บางคนมีความคิดอิสระ การปฏิบัติมีไม่กี่คนที่แยกออก แต่ความชัดเจนทั้งหมดจะอยู่ที่การลงมติ เหมือนที่ ส.ว. ลงมติไม่รับหลักการร่างพ.ร.ป.ของพรรคฝ่ายค้าน
เมื่อถามถึงสถานการณ์การเมืองที่สอดคล้องกับการแก้กฎหมายลูกมีแนวโน้มทำให้เกิดอุบัติการเมืองได้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่าเป็นไปได้ เพราะผู้มีอำนาจไม่พอใจเรื่องบัตรเลือกตั้ง2ใบ แต่จะแก้กลับคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเมื่อไม่ได้ดั่งใจ และหากเขามองว่าตนเองเสียงประโยชน์ หรือพ่ายแพ้ อาจตัดสินใจยุบสภาได้ แต่ตนขอเรียกร้องให้เคารพกติกา และคำนึงถึงประชาชนด้วย.