“ปิยบุตร” เลคเชอร์หลักสูตร “ท้องถิ่นก้าวหน้า” สานต่อ อนค.-ยุติรัฐราชการ
“ปิยบุตร” เลคเชอร์หลักสูตร “นักการเมืองท้องถิ่นก้าวหน้า สานต่อภารกิจ “อนาคตใหม่” ปักธงยุติรัฐราชการรวมศูนย์ เน้นกระจายอำนาจ สร้าง 3 ค. "ความรู้ - คน - เครือข่าย" พลิกโฉมการเมืองท้องถิ่น
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 ที่อาคารอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า แถลงข่าวเปิดตัวหลักสูตร "นักการเมืองท้องถิ่นก้าวหน้า" ภายใต้ความร่วมมือของคณะก้าวหน้า และมูลนิธิคณะก้าวหน้า โดยเป็นหลักสูตรเกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่นที่มีทั้งการบรรยาย การสัมมนา การปฏิบัติงานจริง และการศึกษาดูงาน รวมระยะเวลาทั้งสิ้นเกือบ 100 ชั่วโมง มีวิทยากรชั้นนำของประเทศร่วมบรรยายคับคั่ง ทั้งนี้ หลักสูตรดังกล่าว เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ - 28 พฤษภาคม 2565 รับจำนวนจำกัดเพียง 60 คนเท่านั้น
นายปิยบุุตร กล่าวว่า เราก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา โดยมีนโยบายชูธงซึ่งใช้รณรงค์หาเสียงเกี่ยวกับเรื่องการกระจายอำนาจในครั้งนั้น ใช้ชื่อว่า 'ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ ทวงคืนอำนาจสู่ท้องถิ่น' โดยหากได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ได้เป็นรัฐบาล เราจะเอาอำนาจที่รวมศูนย์อยู่ส่วนกลาง คืนกลับไปให้ท้องถิ่น เราพูดเรื่องการกระจายอำนาจ 20-30 ปี แต่ที่ผ่านมาก็ยังล้มลุกคลุกคลาน เราจึงสนใจไปทำเรื่องนี้ แต่ทว่าก็ไม่ได้มีโอกาสเป็นรัฐบาล พรรคอนาคตใหม่ก็ถูกยุบเสียก่อน และกรรมการบริหารถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี เราจึงมาร่วมกันก่อตั้งคณะก้าวหน้า และตั้งใจที่จะทำงานการเมืองท้องถิ่น เพราะเล็งเห็นว่าถ้าทำการเมืองท้องถิ่นให้ดีขึ้น เปลี่ยนการเมืองท้องถิ่นให้เป็นรูปแบบใหม่ จะยิ่งไปสนับสนุนการกระจายอำนาจมากขึ้น
"คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุนผู้สมัครท้องถิ่นทุกระดับ ทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระดับเทศบาล และระดับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ คนที่เราให้การสนับสนุนได้เข้าไปเป็นผู้บริหารท้องถิ่น โดยเฉพาะในระดับเทศบาลตำบล และอบต. โดยทีมงานคณะก้าวหน้าได้เข้าไปให้ความร่วมมือ นำความรู้ ความคิด แนวทางในการดำเนินงานต่างๆ ไปร่วมผลักดัน จนเกิดผลงานประจักษ์ชัด เช่น น้ำประปาดื่มได้ การจัดการขยะก้าวหน้า การท่องเทียวชุมชน เป็นต้น ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เรามีความรู้ มีประสบการณ์ในการเข้าไปเห็นการทำงานท้องถิ่นว่ามีข้อจำกัด อุปสรรคการบริหารท้องถิ่นเป็นอย่างไร จึงเป็นที่มาของการอยากนำความรู้ที่ได้มานั้น มาเผยแพร่ให้กับประชาชนที่สนใจการเมืองท้องถิ่น คนที่อยากเป็นนักการเมืองท้องถิ่นในอนาคต รวมถึงพลเมืองที่มีความสนใจอยากเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการเมือง จนท้ายที่สุดก็กลายมาเป็นหลักสูตรนักการเมืองท้องถิ่นก้าวหน้า โดยความร่วมมือของ คณะก้าวหน้าและมูลนิธิคณะก้าวหน้า ที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการศึกษา การให้ความรู้เกี่ยวกับประชาธิปไตย ซึ่งต่อไปเราจะมีหลักสูตรอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย" นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า เราเล็งเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงเรื่องใหญ่ๆ ในเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการกระจายอำนาจนั้น ไม่สามารถเข้าไปมีอำนาจแล้วเปลี่ยนได้อย่างเดียว แน่นอนว่าอยากเปลี่ยนเรื่องอะไรเราต้องเข้าไปมีอำนาจเพื่อนำนาจนั้นมาเปลี่ยนแปลง แต่ไม่เพียงพอ ต้องอาศัย ความรู้ คน และเครือข่ายด้วย และนี่คือ "3 ค." ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ของหลักสูตรที่เราก่อตั้งขี้นมา คือ 1.ค. ความรู้ เราต้องการปลูกฝัง ขยายความรู้ ความคิด เกี่ยวกับเรื่องกระจายอำนาจ การปกครองท้องถิ่น รวมถีงการบริหารจัดการเมืองในรู้แบบใหม่ 2.ค.คน ต้องมีการสร้างคน คือนักการเมืองท้องถิ่นรุ่นใหม่ๆ รวมถึงสร้างพลเมืองท้องถิ่นที่ให้ความสำคัญกับการเมืองท้องถิ่น ตรวจสอบ ติดตาม เรียกร้องนโบายกับผู้บริหารท้องถิ่นของตนเอง และ 3.ค.เครือข่าย เราจะไม่จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มของตัวเอง แต่นี่จะเป็นการรวมตัวกันคนที่เห็นด้วย และคนที่สนับสนุนเรื่องการกระจายอำนาจ เห็นด้วยว่าต้องยุติรัฐราชการรวมศูนย์ทวงคืนอำนาจท้องถิ่น เกิดเป็นเครือข่ายคนสนใจบริหารจัดการเมือง เครือข่าย นักวิชาการ นักการเมืองท้องถิ่น และพลเมือง เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งทั้ง 3 วัตถุประสงค์นี้ ถ้าทำสำเร็จ ผลประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชน ที่จะได้รับการบริการที่ดีจากผู้บริหารท้องถิ่น ประชาชนจะได้ในสิ่งที่ต้องการ หรือถ้าไม่ได้สิ่งที่ต้องการก็ปฏิเสธไม่ยอมรับและเข้าไปมีส่วนร่วมในฐานะพลเมืองได้ ภาพใหญ่จะส่งผลเรื่องประชาธิปไตยและการปฏิรูประบบราชการด้วย
"สำหรับรูปแบบของหลักสูตร มี 4 รูปแบบ คือ การบรรยายในชั้นเรียน การจัดสัมมนา การทดลองปฏิบัติงาน และการศึกษาดูงานทั้งในท้องถิ่น ภาครัฐและเอกชน หลักสูตรนี้ใช้เวลาเกือบ 100 ชั่วโมง ขณะที่ด้านเนื้อหา ออกแบบมา 4 หมวดใหญ่ๆ คือ 1.วิชาพื้นฐาน 2. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการปกครองท้องถิ่น 3.หมวดการบริหารจัดการเมืองสมัยใหม่ และ 4.หมวดทักษะความเป็นผู้นำ โดยเราเชื่อว่า หลักสูตรที่เราออกแบบนี้มีความแตกต่าง มีลายลายเซ็นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของหลักสูตรแน่นอน คือ 1.เรียนรู้อดีตเพื่อเข้าใจปัจจุบันแล้วนำไปออกแบบอนาคต มีหลายหัวข้อเรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ เช่น ประวัติศาสตร์การเกิดขึ้นของรัฐไทย ที่เมื่อเข้าใจประวัติศาสตร์แล้วก็จะทำให้เราเข้าใจว่าทำไมกระจายอำนาจยากเย็นเหลือเกิน 2. ศึกษาเปรียบเทียบตัวอย่างแรงบันดาลใจ ทั้งท้องถิ่นในต่างประเทศและในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จ และ 3.แนวทางแบบที่เป็นอยู่ VS แนวทางใหม่ที่ควรทำ ที่เรามองว่าเหมือนช่วงเปลี่ยนผ่าน กว่าจะเอาสิ่งใหม่แทนที่สิ่งเก่าได้ ต้องรู้จักสิ่งเก่าด้วย เพื่อชักชวนคนที่ยังอยู่กับสิ่งเก่าไปหาสิ่งใหม่ด้วยกันกับเรา นี่คือเอกลักษณ์ของหลักสูตรนักการเมืองท้องถิ่นก้าวหน้า" นายปิยบุตร กล่าว
เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวด้วยว่า หลักสูตรของเรา ไม่ไม่ใช่เฉพาะกับคนที่อยากเป็นนักการเมืองท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์สำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่จำนวนมาก ที่อาจคิดว่าการเมืองท้องถิ่นแบบเดิมไม่สนุก ไม่สร้างสรรค์ แต่มาเรียนกับเราเชื่อว่าจะได้เห็นสิ่งใหม่ๆ จะเห็นความสำคัญของการเมืองท้องถิ่นมากขึ้น และในระยาวอาจกลายมาเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ทำให้เราได้บุคลากรการเมืองที่มีคุณภาพเข้ามาอยู่ท้องถิ่นมากขึ้น หรือคนที่ไม่สนใจลงสมัคร แต่ความเป็นพลเมืองที่มีความตื่นตัว มีความสนใจบริหารจัดการเมือง ก็จะเข้าไปมีส่วนร่วมกับการเมืองท้องถิ่นมากขึ้นด้วย การเมืองท้องถิ่นจะเปลี่ยนแปลง กระจายอำนาจจะเกิดขึ้นได้ ต้องเปลี่ยนแปลงความคิด และเติมการเมืองแบบใหม่ๆ เข้าไป ทั้งนี้ สำหรับ หลักสูตรนักการเมืองท้องถิ่นก้าวหน้า จะเปิดเรียนวันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2565 และจัดไปอีก 2 เดือน โดยรับสมัครผู้เข้าอบรมรุ่นแรก 60 คน เท่านั้น มีค่าใช้จ่ายหลักสูตรที่ 12,000 บาท ซึ่งทางหนึ่งนอกจากลดภาระการขาดทุนในการจัดทำหลักสูตรแล้ว การเก็บเงินค่าเรียนยังสร้างความกระตือรือร้นให้กับผู้อบรมอย่างสม่ำเสมอด้วย